.. ร่วมแจ้งผลจากการปฏิบัติตามแนวของหลวงพ่อปราโมทย์ ..
เรียนเชิญทุกท่าน ที่ฝึกปฏิบัติหรือฟังCDหลวงพ่อปราโมทย์ เขียนแสดงความจริงที่เกิดกับตัวท่านเองหรือคนรอบข้าง ว่าส่งผลดีอย่างไร เพื่อเป็นพยานยืนยันให้โลกได้รับรู้ว่า .. แนวทางนี้ ถูกต้องตรงทางและปรากฎผลดีให้กับหลายคนมากแค่ไหน ผมเชื่อว่าการยืนยันจากผู้คนจำนวนมาก ที่แสดงให้เห็นว่า คนที่ปฏิบัติตามคำแนะนำของหลวงพ่อปราโมทย์ เจริญในธรรมขึ้นอย่างไร มีสติมากขึ้น มีกำลังใจในการเจริญสติมากขึ้น กิเลสน้อยลง โกรธน้อยลง ทุกข์น้อยลง การเห็นทางพ้นทุกข์ได้ชัดขึ้น และอีกสารพัด ที่น่าจะเป็นตัวอย่างและอาจทำให้ใครหลายคนได้ฉุกคิดขึ้นมาบ้างว่า... แนวทางนี้ผิดจริงหรือไม่ ผลของการภาวนาที่เกิดเป็นความสว่างทางจิตของคนจำนวนมาก ที่กิเลสน้อยลง ศรัทธาพระศาสนา ศรัทธาในพระธรรมมากขึ้น มันเป็นแนวทางที่ไม่สมควรเผยแพร่ หรือปฏิบัติตามจริงดังที่ใครหลายคนกล่าวหาจริงหรือ...
ในบางแห่ง เอาประกาศกล่าวหาหลวงพ่อปราโมทย์ไปเผยแพร่ แต่กลับไม่เคยใส่ใจในคำชี้แจงข้อกล่าวหาที่ทีมวิมุตติได้แถลงการณ์ออกมา ซึ่งตามหลักแล้วถ้าทำด้วยใจบริสุทธิ์ ก็ควรจะเผยแพร่ข้อมูลสองด้านเพื่อให้ปัญญากับคนทั่วไปอย่างแท้จริงด้วย และท่านเหล่านั้นก็เหมือนจะปิดหูปิดตาไม่ยอมรับรู้ ไม่เคยสนใจ ไม่เคยพูดถึง ผลดีมากมายที่เกิดกับคนจำนวนมาก ที่เขาต่างยืนยันว่า แนวทางนี้ ทำให้ละวางตัวตน ทุกข์น้อยลง ศรัทธามากขึ้นและทำให้มีตนเป็นที่พึ่งของตนได้อย่างแท้จริง ลูกศิษย์หลวงพ่อ ล้วนสนใจแต่การภาวนา สนใจแต่ทางดับทุกข์ เท่าที่ผมเจอ ไม่มีเลยซักรายที่มาหาหลวงพ่อเพราะสนใจอภินิหารย์ สนใจของขลัง หรืออยากได้ผมหรือจีวรหลวงพ่อไว้บูชา ไม่สนใจในสิ่งไร้สาระ ไม่ใส่ใจในเรื่องพิธีการเยิ่นเย้อที่ไม่จำเป็นต่อการปฏิบัติ เข้าหลักธรรม เข้าหลักปฏิบัติเพื่อมุ่งดับทุกข์กันอย่างเดียว ถามแต่เรื่องทำอย่างไรจะภาวนาได้ดี ทำอย่างไรจะละวางความเป็นตัวตนได้ ต้องการทำทุกอย่างเพื่อดับทุกข์ มาจับหลักภาวนา และส่งผลของการปฏิบัติเท่านั้น
มีคนบางกลุ่มเชื่อจริงๆ ว่าหลวงพ่อผิด โดยที่ไม่ไตร่ตรอง และไม่เคยดูผลการปฏิบัติของเหล่าศิษย์ที่เดินตามเลย บางคนยังเขียนจดหมายมาต่อว่าผม หาว่าผมเชื่อเรื่องนรกสวรรค์หรือเปล่า เผยแพร่ของผิดๆ ระวังจะตกนรก ผมก็ได้แต่ งง นะว่า คนพวกนี้เขาคิดอะไรอยู่ ในเมื่อคำสอนที่นำไปสู่การละวางตัวตน และเห็นชัดๆเลยว่า กิเลสมันน้อยลง ทุกข์น้อยลง จุดมุ่งหมายเป็นไปตรงตามจุดประสงค์ของพระพุทธองค์ เพียงแต่วิธีการ รูปแบบ และการใช้ศัพท์ การอธิบาย อาจจะแตกต่างกับแนวทางอื่น แต่ก็ไม่ได้หมายถึงว่า การขึ้นเขาเพื่อไปสู่ยอดเขานั้น เราต้องใช้เส้นทางเดียวกันนิครับ บางท่านยังทำสิ่งที่ไม่สมควร ก็คือ นำพระเถระที่มีชื่อเสียงมากล่าวอ้าง เพื่อโจมตีหลวงพ่อปราโมทย์ ซึ่งผมคิดว่าไม่เป็นสิ่งที่สมควรเลยสำหรับผู้ทีอ้างตนว่าเป็นผู้ประพฤติธรรม บางทีก็จับหลักปฏิบัติที่หลวงพ่อสอนเฉพาะบุคคล ไปเหมาว่าท่านสอนแบบนี้ เอาแค่บางประโยคไปถามพระเถระว่าท่านสอนถูกหรือผิด
ซึ่งในความเป็นจริง ถ้าเล่าไม่หมด ถ้าไม่บอกว่านี่คือการสอนเฉพาะตัว เป็นการแก้อารมณ์ของคนๆนั้น หยิบไปถามแบบนี้ ท่านก็ต้องบอกว่าผิดซิ สำคัญคือ จุดประสงค์คนที่นำไปถาม มีเจตนาอย่างไร และรอบคอบจริงหรือไม่ ในความเป็นจริงแล้วสิ่งเหล่านั้นไม่ควรกระทำเลยด้วยซ้ำ กับการนำการสอนกรรมฐานเฉพาะตัวของศิษย์สำนักหนึ่งไปถามพระอาจารย์อีกสำนัก โดยที่ไม่ได้ชี้แจงรายละเอียดทั้งหมดตลอดสาย
ทิ้งท้ายด้วยประโยคว่า กิ่งไม้ผุ ที่ชอบมาอ้างกัน ผมถือว่าเคารพศรัทธาศิษย์ของทั้งสองสาย แล้วผมก็เชื่อว่า ท่านหมายความถึง พวกบูชาเทพ หรือบูชาฆราวาสที่ตอนนี้ออกมากันเยอะ ในเรื่องรู้กรรมเห็นกรรม พวกหมอดูต่างๆ มากกว่า รวมถึงบางแนวทางที่เราเห็นได้ชัดเลยว่า ผิดหลักพระไตรปิฎกชัดเจนอย่างไร ซึ่งก็น่าแปลก แนวทางที่ผิดกันเต็มๆ เราก็รู้ นักปฏิบัติที่ไหนก็รู้ แต่กลับไม่มีใครกล้ายุ่ง ไม่มีใครกล้าไปโจมตีจริงจังแบบนี้.. แต่กลับมาโจมตีเอาเป็นเอาตาย กับหลวงพ่อ ผู้ซึ่งเปิดแสงสว่างให้คนจำนวนมาก จนเห็นผลเป็นคำยืนยันได้จากคนหลายกลุ่มว่าแนวทางนี้ เป็นไปเพื่อการลดละความยึดมั่นถือมั่นในกายใจนี้ได้แค่ไหน
ดังนั้นเพื่อเป็นประจักษ์พยาน ให้โลกได้รู้ได้เห็น จึงเรียนเชิญ ผู้ที่สนใจและฝึกตามแนวทางของหลวงพ่อปราโมทย์ ได้มาลงชื่อ และผลการปฏิบัติในกระทู้นี้นะครับ เพราะคงเป็นคำตอบได้ดีกว่าคำชี้แจงแก้ตัวใดๆ ทั้งสิ้น เมื่ออาบน้ำแล้วตัวสะอาด ใครเล่าจะมากล่าวหาเราได้ว่า เราสกปรกตัวเหม็น
ผู้ที่เคยลงข้อความไว้ในเวปบอร์ดแล้ว ขอความกรุณาก๊อปมาใส่ในนี้อีกครั้งนะครับ ถ้าเป็นไปได้ ผมอยากให้ลงชื่อจริง นามสกุล หรือที่อยู่ด้วยยิ่งดี เพื่อเป็นหลักฐานให้คนเขาเห็นว่า นี่ของจริง ไม่ใช่การสร้างภาพ
อนุโมทนา และ อยากเห็นคนถึงธรรมกันจริงๆ ไม่ใช่ปฏิบัติแล้วเที่ยวกล่าวหาผู้อื่นอย่างไม่มีเหตุผล โจมตีผู้อื่นโดยขาดเมตตาจิต ขาดเหตุและผล และไม่ยอมฟังหรือสนใจในคำชี้แจงของคนที่ถูกกล่าวหา มันเป็นสิ่งที่สมควรแล้วหรือครับ
กับคำว่า .. ผู้ประพฤติและใฝ่ในธรรม
เจริญในธรรมทุกท่านครับ
ก.พ. 53 โจโฉ
หมายเหตุ.. กราบขออโหสิกรรม หากข้อความไปล่วงเกินท่านผู้ใด โดยไม่ได้เจตนา ผมเป็นคนพูดตรง รู้อะไร เห็นอะไรก็พูดตรงๆ ไม่ได้มีเจตนาจะลบหลู่ ดูถูก หรือเหยียดหยัน หรือก้าวล่วงผู้หนึ่งผู้ใด แต่พูดด้วยเจตนาจะรักษาความจริงเท่านั้น กราบขออภัยถ้าทำให้ท่านขุ่นเคืองหรือไม่สบายใจครับ
ปล... 5-7 ก.พ. ไม่อยู่นะครับ ไปทำบุญประทายข้าวเปลือกทีวัดป่าบ้านตาด
หลังวันที่ 7 ก.พ. ค่อยกลับมาเคลียร์เรื่องถวายชุดบวชทีวัดปทุมฯ อนุโมทนาทุกท่านด้วยครับ
อ้อ เรื่องซีดีที่ขอกันเข้ามามาก รอกันนิดนะครับ งานเยอะมากมาย
ผมคงทะยอยส่งได้ 1-2 เดือนต่อครั้งนะครับ นี่ก็ดองมาตัง้แต่กลางเดือน ธ.ค. ใจเย็นๆ เน้อ ได้ทุกคนแหละครับ
พระธรรมคำสอนของพระพุทเจ้า ธรรมของพระอริยสงฆ์ในอดีต ที่บันทึกไว้ เป็นภาษาต่างชนชาติ ต่างพื้นที่ ต่างภูมิภาค ซึ่งบ้างเป็นภาษาโบราณ อ่าน ฟัง แล้ว ต้องตีความ และเข้าใจค่อนข้างยาก โชคดีชาตินี้พบซีดีเทศน์ของท่านพระอาจารย์ปราโมทย์ ที่ได้สื่อภาษาตามชนชั้นและอายุไขรุ่นใกล้เคียงกัน จนเข้าใจเพิ่มเติมมากมาย ขอกราบท่านเป็นครูอาจารย์ทางจิตวิญญาณด้วยความเคารพอย่างสูงเสมออริยสงฆ์ทั้งหลายผู้ปฏิบัติดีในพุทธศาสนา แม้ไม่เคยพบตัวตนจริง แต่ภาพและเสียงที่นำมาเผยแพร่จากคุณโจโฉ ก็เป็นเสมือนท่านมาพบมาสอนกันซึ่งหน้าครับ ขอกราบคุณโจโฉตรับ เป็นพระคุณอย่างสูง ขอให้ท่านพบอริยะทรัพย์เป็นที่สุดครับ
ส่วนผู้กล่าวร้ายท่านพระอาจารย์ ช่างเขาเถิด เขาก็มีกรรมเป็นเขาเองเช่นเดียวกับสัตว์ทั้งหลายในสากลจักรวาลอยู่แล้ว ไม่ใช่หน้าที่ใครที่จะไปกำหนดอะไรให้เขาได้ กรรมย่อมกำหนดวิบากกรรมเองครับ
ดิฉันเป็นอีกคนหนึ่งที่ฟังการแสดงธรรมของหลวงพ่อปราโมทย์แล้วเกิดการเปลี่ยนแปลง จากเริ่มแรกคือ เห็นตัวตนแท้จริงของตนเอง ซึ่งไม่เคยสังเกตมาก่อน เห็นกิเลสชัดขึ้น เห็นความโกรธชัดขึ้น จนในที่สุด จิดนิ่งและสงบขึ้น และทำให้เรารู้จักสมถะโดยไม่รู้ตัว ดิฉันจึงเจริญปัญญาดูกายดูใจ ควบคู่ไปกับการทำให้จิตนิ่งเพื่อพักผ่อน ดิฉันฟังหลวงพ่อปราโมทย์ตลอด และได้ครอสเช็คสิ่งที่เกิดขึ้นกับตนเองในหนังสือของท่านพุทธทาส ซึ่งตรงกันอย่างไม่น่าเชื่อ ดิฉันได้เข้าถึงปรากฏการณ์ของจิตในระดับหนึ่ง และรู้สึกสลดใจมากที่เกิดเรื่องนี้ขึ้น โดยเฉพาะที่มีเวป antiwimutti ออกมา คนเราคงเห็นตรงกันไม่ได้ แต่ก็รู้สึกเศร้าสลดถึงความจงเกลียดจงชังที่อีกฝ่ายที่บอกว่าตนเองเป็นพุทธแสดงออกมา การกระทำใดๆย่อมแสดงให้เห็นธาตุแท้ของบุคคลนั้นจริงๆ
เมื่อก่อนตั้งแต่ตอนผมยังไม่มีความเชื่อในเรื่องศาสนา จนได้มีโอกาสมาบวชตามประเพณี ทำให้ได้มีโอกาสศึกษาธรรมะต่างๆตามหลักศาสนาพุทธ ผมได้ค้นหามาตลอดว่าอะไรคือธรรมะสิ่งที่พระพุทธเจ้าได้สอนไว้ อะไรคือทางแห่งความหลุดพ้นอย่างแท้จริง เป็นระยะเวลา 4-5 ปีที่ผมศึกษาอ่านหนังสือธรรมต่างๆมากมาย และได้ทดลองปฏิบัติด้วยตัวเอง ...ก็เกิดความสงสัยต่างๆ มากมายเกิดขึ้นในชีวิตของผม ว่าทำแบบนี้ถึงจะถูก ทำแบบนั้นผิด
จนกระทั่งผมได้มีโอกาสที่สำคัญในชีวิตคือช่วงตกงานได้ไปสำนักปฏิบัติธรรม 7 วัน 7 คืน ผมได้ทดลองปฏิบัติโดยปรารถนาจะเอาชีวิตเข้าแลกกับธรรมะ แต่สุดท้ายผมก็ไม่สามารถเอาชนะตัวเองได้ จนกระทั่งผมได้พบกัลยาณมิตรผู้ชี้ทางให้ผมได้ค้นพบทางสว่าง ท่านบอกกับผมว่า "ธรรมะนั้นง่ายนิดเดียว" ผมก็เกิดความสงสัยว่าที่เราปฏิบัติมาตลอดนั้นไม่ถูกหรือ?
ท่านก็ได้ให้ผมฟังซีดีของหลวงพ่อปราโมทย์ ทันทีทีผมได้ฟังไม่กี่ประโยค ผมรู้สึกเกิดความปิติซาบซ่านอย่างมาก และพูดกับตัวเองว่า "นี่แหละ คือธรรมะที่ผมตามหามาตลอดชีวิต"
จากวันนั้นเป็นต้นมาความสงสัยที่อยากจะค้นหาในธรรมะต่างๆ ของผมก็จบสิ้นลง .....เหลือเพียงทางสายเอก คือการเจริญสติ ทางสายนี้เพียงแค่สายเดียวเท่านั้นที่ผมจะเดินไปสู่ความหลุดพ้นได้
ขออนุโมทนากับ web master และทุกๆท่านที่เข้ามาแสดงความคิดเห็นเป็นอย่างสูง และขอให้ทุกท่านเจริญในธรรมครับ
เริ่มจากตอนที่บวชมีพระองค์หนึ่งแนะนำให้เรามาปฏิบัติวิปัสสนาตามแนวหลวงพ่อเป็นครั้งแรก โดยได้ให้หนังสือ แด่เธอผู้มาใหม่ กูญแจสู่ความรู้แจ้ง และหนังสือเล่มอื่นๆ กับเรา
จากที่ทำสมถกรรมฐานมานาน ซึ่งแนะให้เรา ดูจิต สังเกตจิต ตอนแรกก็ยังไม่เข้าใจอะไรนัก แต่ก็ได้ลองดู
จนเมื่อสึกออกมา ท่านได้ให้ ซีดี ธรรมะของหลวงพ่อมาฟัง ก็ได้ฟังและปฏิบัติธรรม ดูจิต เรื่อยมา ยังได้ติดตามไปฟังเทศน์ของหลวงพ่อ ปราโมทย์ ที่ ศาลาลุงชิน และที่ สวนสันติธรรมเป็นครั้งคราว
ถึงเวลานี้ก็ได้ปฏิบัติธรรมตามแนวของหลวงพ่อมาประมาณ 2 ปีกว่า ก็เริ่มรู้สึกได้ว่า มีความสุขอิ่มเอมใจมากขึ้น จากที่เป็นคนที่เครียดมาก พอเห็นได้ว่าความคิดไม่ใช่ตัวเรา ร่างกายไม่่ใช่ตัวเรา เริ่มปล่อยวางสิ่งต่างๆได้
ยืนยันได้ว่าธรรมะที่หลวงพ่อสั่งสอนให้นั้น เป็นธรรมะของจริงใช้ได้จริง เห็นผลอย่างแน่นอนครับ
เริ่มจากตอนที่บวชมีพระองค์หนึ่งแนะนำให้เรามาปฏิบัติวิปัสสนาตามแนวหลวงพ่อเป็นครั้งแรก โดยได้ให้หนังสือ แด่เธอผู้มาใหม่ กูญแจสู่ความรู้แจ้ง และหนังสือเล่มอื่นๆ กับเรา
จากที่ทำสมถกรรมฐานมานาน ซึ่งแนะให้เรา ดูจิต สังเกตจิต ตอนแรกก็ยังไม่เข้าใจอะไรนัก แต่ก็ได้ลองดู
จนเมื่อสึกออกมา ท่านได้ให้ ซีดี ธรรมะของหลวงพ่อมาฟัง ก็ได้ฟังและปฏิบัติธรรม ดูจิต เรื่อยมา ยังได้ติดตามไปฟังเทศน์ของหลวงพ่อ ปราโมทย์ ที่ ศาลาลุงชิน และที่ สวนสันติธรรมเป็นครั้งคราว
ถึงเวลานี้ก็ได้ปฏิบัติธรรมตามแนวของหลวงพ่อมาประมาณ 2 ปีกว่า ก็เริ่มรู้สึกได้ว่า มีความสุขอิ่มเอมใจมากขึ้น จากที่เป็นคนที่เครียดมาก พอเห็นได้ว่าความคิดไม่ใช่ตัวเรา ร่างกายไม่่ใช่ตัวเรา เริ่มปล่อยวางสิ่งต่างๆได้
ยืนยันได้ว่าธรรมะที่หลวงพ่อสั่งสอนให้นั้น เป็นธรรมะของจริงใช้ได้จริง เห็นผลอย่างแน่นอนครับ
ข้าฯประสบทุกข์ จึงหันหาธรรมะ ศึกษาคำสอนของท่านพุทธทาสมาตลอด
รู้ว่าท่านพูดจริง แต่ไม่เห็น ไม่รู้ว่ามันมีที่มาที่ไปอย่างไร คือ มันเริ่มจากทุกข์ และ จบที่ ที่สุดแห่งทุกข์ สูญญตา ว่าง.... งง ไม่รู้ท่านพูดอะไร แต่รู้ว่าท่านพูดจริง.
วันนึงพบน้องโจโฉ ทางเน็ต แนะนำฟังธรรมเทศนาหลวงพ่อปราโมทย์ สวนสันติธรรม ฟังแรกๆไม่รู้เรื่อง เหมือนคนคุยกัน คุยอยู่เรื่องเดียวเอง มีสติ รู้ กาย-จิต ดูมันอย่างที่มันเป็น....งง อีก ก็เราก็อยู่กับมัน เห็น รู้ มันอยู่ตั่งแต่เช้าถึงเย้น เดี่ยวก้สุข เดี่ยวก็ทุกข์ เดี่ยวก็เฉยๆ แล้วจะให้ดูอะไรอีก. แต่ก้คิดว่าต้องมีของดี เพราะคนฟังกันเยอะ ก็ฟังไป สังเกตุไป อ้าว...มันเป็นอย่างนี้เอง ธรรมะท่านพุทธทาส ปรากฎให้เห้นเหมือนดวงอาทิตย์ตอนเช้า รูปธรรม - นามธรรม \\
ໄດ້ຜົນຫລາຍໆ
ຂໍໃຫ້ທັມມະຄູ້ມຄອງທ່ານແລະທຸກໆຄົນ
ພໍ່ຫລາບ
ສປປ ລາວ
ธรรมะเป็นเรื่องเฉพาะตัว ใครทำใครได้
ได้ฟัง CD ของหลวงพ่อเริ่มจากชุด ธรรมเทศนา 4 วัน
จึงตาม load ชุด ศาลาลุงชิน (ศาลากาญจนาภิเษกภิเษก) ไปฟังต่อ
ทำให้เข้าใจหลักในการทำวิปัสสนามากขึ้น
ณ ขณะนี้ที่กำลังมีเรื่องราวต่าง ๆ อยู่นี้
ก็กำลัง load ชุดสวนสันติธรรมไปฟังต่อ
ก็ไม่แปลกใจที่ทำไมมีบางคนฟังแล้วกังขา
(ก็เขาไม่เข้าใจหลัก จับเอาแค่บางคำ บางตอน)
ความเห็นส่วนตัวผม สำหรับผู้สนใจ
แนะนำให้เริ่มฟังจากชุด ศาลาลุงชิน จะดีกว่า
อดทนฟังด้วยใจเป็นกลางให้ถึงครั้งที่ 15-18
จะซาบซึ้งในคำสอนของท่าน
(ส่วนตัวผมเอง) ครั้งที่ 21 เป็นต้นไปย้ำให้เข้าใจมากขึ้น
ย้ำว่าต้องเริ่มฟังตั้งแต่ ศาลาลุงชินครั้งที 1
ผมฟังชุดศาลาลุงชินซ้ำเป็นรอบที่ 2 แล้ว
ฟังแล้วปฏิบัติตาม ต่อเนื่องจากแนวที่ปฏิบัติอยู่เดิม
ส่งเสริมซึ่งกันและกัน ดูกาย ดูจิต ดูเวทนา
แม้ปัญญายังไม่เกิด แต่ได้สมาธิที่โล่ง โปร่งสบาย เป็นสุขขึ้นครับ
หมายเหตุ ศาลาลุงชิน คือ ศาลากาญจนา
ทดลองดูแล้ว ได้ผล ถึงแม้จะปฏิบัติไม่สม่ำเสมอ แต่ถ้าใส่ใจ และปฏิบัติตามบ่อยๆ
จะเห็นผล