สมุดเยี่ยม เล่ม 4
.
มีความผิดพลาดทางเทคนิคอาชีวะเล็กน้อย ทำให้สมุดเยี่ยมเล่ม 2 ข้อมูลหายไปทั้งหมด (เสียดายม้ากก..) และสำหรับเล่ม 3 ก็โดนบอทโจมตี จนไฟล์ขยะเยอะมาก ย้ายมาใช้ในเวปบอร์ด เพราะจะได้มีระบบกรองคำ ป้องกันคนยิงข้อความ สำหรับท่านที่เคยลงอะไรไว้ เขียนใหม่ก็ดีนะครับ โดยเฉพาะ อีเมล์ และเวปไซด์ที่ต้องการสานสัมพันธ์กับผม หุๆ สำหรับสมุดเยี่ยมเล่ม 1 ย้อนไปอ่านได้ที่นี่ครับ (คลิ๊ก) สำหรับ สมุดเยี่ยมเล่ม 3 อ่านที่นี่(คลิ๊ก)
.....
กว่าจะมาเป็นเวปนี้ได้ ก็ฝ่าฟันอุปสรรคมาเยอะพอสมควร จากการเริ่มต้นด้วยเวปไซด์ฟรี ด้วยการฝากไฟล์ word แบบง่ายๆ กับไปอาศัยเวปคนอื่นทำบล๊อกให้ดาวน์โหลดอยู่หลายปี ใครที่ติดตามผมมานาน คงจะจำกันได้ดีว่า เวปไซด์แรกๆ ที่ทำมันสยองแค่ไหน เน้นปริมาณจริงๆ 555 แต่ในที่สุดไฟล์มหาศาลกับเวปง่ายๆที่ทำไว้หลายแห่ง ก็เป็นไปตามกฎที่ไม่มีอะไรเที่ยง อยู่ดีๆ โดนลบเกลี้ยงทุกเวป สิ่งที่เพียรทำมาหลายปีก็กลายเป็นปราสาททรายในชั่วพริบตา.. จึงเป็นที่มาของการทำเวปส่วนตัวที่ถาวรซะที
.
จากสองมือเพียงลำพังแต่หลายคนคิดว่าทำเป็น ทีมงาน จากความไม่พร้อมในหลายๆด้าน เริ่มต้นจากศูนย์จนมาถึงทุกวันนี้ ทำให้คนหลายคนได้เห็นว่า .. ทำดีไม่ต้องรอให้พร้อม ตั้งแต่เริ่มต้นทำมากับจำนวนการดาวน์โหลดเป็นหลักล้าน..รวมถึงผลงานเสียง อ่านและเพลงธรรมะที่เผยแพร่ไปทั่วโลกทำให้รู้สึกคุ้มกับความเหนื่อยและการ เสียสละความสุขส่วนตัวมาทุ่มเท หลายเวปไซด์ดังก็ยังได้เอาไฟล์จากที่นี่ไปใช้ และผมเองส่งต้นฉบับไปให้ด้วยซ้ำ และไม่รู้ว่าเกี่ยวกันหรือเปล่า แต่หลังจากที่ทำมาระยะหนึ่ง ก็เหมือนเป็นแนวทางให้เวปดาวน์โหลดธรรมะรายใหม่ๆ เกิดขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการผลิตเสียงอ่านหนังสือธรรมะ ที่บูมขึ้นทุกวัน ก็ดีใจที่เป็นส่วนหนึ่งในการสร้างสีสรรและจรรโลงพระศาสนาร่วมกัน
.
ทุกวันนี้แม้จะทำงานอยู่คนเดียว แต่ก็ต้องกราบขอบพระคุณผู้สนับสนุนทุกท่าน ที่ผลัดเปลี่ยนเวียนกันมาเติมเชื้อเพลิง ให้รถประกาศธรรมคันนี้วิ่งต่อไปได้ งานทุกอย่างจะกว้างขวางและได้ผลขนาดนี้ไม่ได้เลย ถ้าขาดผู้สนับสนุนงบประมาณในการทำกิจกรรมและผลิตสื่อที่ผ่านมา ก็เหมือนเดิมครับ กำลังใจสำคัญเสมอ สำหรับคนทำงาน ส่วนบางคนที่จะมาพล่ามสั่งสอนอะไรขอเถอะนะครับ นี่สมุดเยี่ยม ถ้าจะเก่งมากก็เก็บไว้สอนตัวเอง คนเรามันต้องดูกาละเทศะว่าบุคคลและเวลาไหนควรสอนควรแนะนำ บางพวกพึ่งรู้จักผมวันเดียว ยังไม่รู้เลยว่าอะไรยังไงก็มาสั่งสอนแบบผิดๆ มองคนอื่นแง่ลบ และไม่กล้าแม้กระทั่งจะลงอีเมล์และชื่อจริง ถ้าหวังดีกันจริงต้องทำให้ถูกต้อง ถ้าสงสัยอะไรเกี่ยวกับผม ก็ไปดูตามนี้นะครับ
.
...
.
.
* บอกก่อนว่า บางอย่างพูดให้ฟังไม่ใช่จะให้สรรเสริญตัวเอง เช่นที่บอกต้องสละอะไรมามากมาย บอกให้ฟังเพราะมีคนมันเอาไปโพสต์ด่าหลายเวป และก็อคติมองแง่ลบหาว่า เอาธรรมะมาหากิน ไม่มีทางอื่นแล้วถึงมาทำตรงนี้ ก็เลยต้องบอกให้รู้ว่าอะไรยังไง และให้เป็นตัวอย่างคนอื่นเฉยๆ ว่าไม่ใช่มาทำง่ายๆ ต้องทิ้งอะไรมา แล้วงานที่ทำมันเป็นงานพุ่งไปที่กลุ่มเป้าหมายเยาวชนในแนวบันเทิงและกลุ่มที่กร้านโลก ไม่ใช่จะสอนธรรมะก็ต้องทำตัวเชยๆ หัวเกรียนและสุดโต่งกันไปด้าน ซึ่งกลุ่มเป้าหมายตรงนี้มันไม่ค่อยมีใครทำและเข้าถึง ผมเป็นคนเขียนอะไรตรงๆ อยู่ที่คนอ่านนะว่า จิตใจสูงหรือต่ำแค่ไหน คนจิตใจสูงเขาก็ตีความไปแง่ดีได้เสมอ คนที่เขารู้จักผมดีเขาจะรู้ว่า ผมบ่นอะไรไม่ได้ซีเรียสเลย พูดออกไปแล้วก็ไม่ได้ใส่ใจ ไม่ได้มาน้อยใจ ท้อแท้ หรือโกรธใคร เหมือนพูดไปงั้นๆ ส่วนใหญ่เป็นประโยคบอกเล่า เล่าสู่กันฟังแค่นั้น เพื่อนในเฟซก็คงรู้ดี
.
บางคนก็เอาไปเปรียบกับพระหรือบุคคลอื่นที่เสียสละเหมือนกัน ที่ยกมาเปรียบเทียบกับผม หลายอย่างก็ก็ทำอย่างผมไม่ได้เหมือนกัน งานมันคนละแบบ มันคนละแนวทางครับ อยากให้มองว่า ช่องทางการทำงานมันแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง พื้นฐานปัจจัยที่เอื้อต่อการทำงานก็ต่างกัน ยิ่งโดยเฉพาะผมทำงานคนเดียว และไม่ได้มีต้นทุนเก่ามามากพอ แต่ให้ดูว่างานที่ทำ ทำมากกว่ามูลนิธิบางแห่งด้วยซ้ำไป แค่อยากบอกให้รู้ว่า หากเลิกทำไปก็ไม่ได้เดือดร้อน และไปอยู่ในสถานที่ไม่ต้องมีใครมาด่า หรือมามองแง่ลบได้เช่นกัน แต่ทำทุกอย่าง หน้าด้านประกาศหลายเรื่อง ก็เพียงเพราะเห็นว่ามันเกิดผลดีต่อสังคมจริงๆ ทำใจไว้แล้วว่าจะต้องมีคนเข้าใจผิดหรือด่าเราบ้าง แต่น่าจะเป็นเฉพาะคนที่ชั่วจริงๆ จิตใจคับแคบจริงๆ เพราะคนชั่วเขามองเห็นความดีคนอื่นไม่ได้อยู่แล้ว แต่กับคนอ้างว่าปฏิบัติธรรมก็ยังคิดแง่ลบได้อย่างไม่น่าเชื่อเหมือนกัน หลายคนก็ยังไม่รู้รายละเอียดจริงๆ แค่อ่านข้อความไม่เท่าไหร่ ถามจริงว่ามันบอกถึงตัวตนที่แท้จริงของคนๆ นั้นได้จริงหรือ และก็แปลก พวกที่ด่าๆ วิจารณ์ต่างๆ นาๆ นี่นะ ส่วนใหญ่ก็ไม่ได้ทำประโยชน์ให้บ้านเมือง ไม่ได้ทำอะไรมากกว่าคนที่ไปด่าเขา และก็ไม่เคยคิดจะสนับสนุนเขาด้วยซ้ำ แต่วันๆ เอาแต่วิจารณ์ เอาแต่มองคนอื่นแง่ลบ .. ก็ขอให้เจริญๆ นะครับ
.
(หลังปฏิเสธค่ายเพลง ปฎิเสธละคร-พิธีกรและงานสตูดิโอ ที่สวัสดิการพร้อม มาทำงานฟรีเหมือนเด็กเก็บขยะ ยังจะด่าผมลงอีกเหรอ)
หมายเหตุ : อยากอธิบายให้เข้าใจว่าไม่ได้มาแฝงผลประโยชน์เพื่อหากินกับธรรมะ แต่หลังจากตัดใจเลือกทางเดินสองทางระหว่างไปบวชกับทำงานเพื่อสังคม ก็คิดว่าตนเองเหมาะกับการทำงานแบบนี้มากกว่า และได้ประโยชน์มากกว่า จึงเสี่ยงทำดูจากเล็กๆจนขยายงานได้ใหญ่ระดับประเทศ เมื่อทำได้แค่ประมาณ 2 ปีจนสามารถเปิดเวปไซด์เป็นของตัวเองได้ ก็มีนักธุรกิจใจบุญเสนองานให้ทำ โดยมีคอนโดหรูให้อยู่ฟรี มีสวัสดิการเพียบพร้อม สะดวกสบายอย่างที่หลายคนต้องอิจฉาเลย และให้ทำเพียงอาทิตย์ละสามวัน แต่ผมก็ปฏิเสธมาเพราะว่า การทำงานเพื่อสังคมที่ผมวางแผนไว้ จำเป็นต้องใช้ความอิสระสูง นิสัยผมทำอะไรต้องทุ่มสุดตัว ถ้าไปทำงานให้เขาผมก็ต้องทุ่มสุดตัวจนไม่น่าจะเหลือเวลาหรือสมองมาคิดงานเพื่อสังคมได้เต็มที่เหมือนอย่างที่หลายโครงการที่ผมทำสำเร็จมาแล้ว และทำต่อเนื่องมาหลายปี
ทุกวันนี้ยังมีรายการทีวีติดต่อให้เป็นพิธีกรหลายรายการ มีค่ายเพลงติดต่อมาให้เข้าสังกัด มีคลื่นวิทยุหลายแห่งติดต่อให้เป็นดีเจ และมีละครช่องดังติดต่อมาให้ไปเล่น มีโอกาสมากมายที่เข้ามาหาผม แต่ไม่มีใครรู้ว่าผมปฏิเสธสิ่งเหล่านี้ทั้งหมด เพราะผมไม่ได้อยากดัง ไม่ได้อยากรวย ผมมีความสุขกับการเผยแพร่ธรรมะที่ผมคิดว่า เป็นแนวทางที่คนอื่นไม่ได้ทำและทำไม่ได้ ชีวิตผมอิ่มทางโลกมานานแล้ว แม้หน้าตาผมจะดูเปรี้ยวซ่า เมื่อวันก่อนไปแจกซีดีเขายังมีคนมาถามว่ายังกินเหล้าหรือเปล่า คือคนเรานี่มันตัดสินคนที่ภายนอกจริงๆ คงเป็นเรื่องเข้าใจยากที่จะบอกว่า คนที่บุคคลิกแบบผม ดูเป็นวัยรุ่น แล้วจะมาจริงใจทำงานเพื่อส่วนรวมโดยไม่หวังผลประโยชน์ และหลายคนคงไม่เชื่อว่าผมต้องสละทุกอย่างที่เป็นความหอมหวานในชีวิตในวัยที่หลายคนยังระเริงกับชีวิต ไม่แปลกหรอกที่หลายคนจะไม่เข้าใจ สงสัยและไม่เชื่อในสิ่งที่ผมบอก เพราะแต่ละคนก็มีสามัญสำนึกที่แตกต่างกัน คนเห็นแก่ตัวย่อมไม่มีทางเข้าใจได้ว่า คนอื่นเขาเสียสละทำไม ทำได้อย่างไร แล้วทำไปเพื่ออะไร
ไม่ใช่ผมจะงดรับงานบันเทิงทั้งหมดนะ ที่ผ่านมาก็ไปช่วยงานเป็นประจำ หากเป็นงานการกุศล งานชั่วคราว เป็นเพื่อประโยชน์ของส่วนรวม และไม่กระทบกับการเผยแพร่ธรรมของผม แต่ถ้าจะให้ไปเข้าสังกัดเป็นศิลปินอีกรอบ ไปเป็นดาราเล่นละคร หรือเป็นพิธีกรรายการบันเทิง แม้มันจะทำให้ผมมีชื่อเสียงอย่างที่เคยคิดมาก่อนว่า ถ้ามีชื่อเสียงแล้วจะเผยแพร่ได้ง่ายขึ้น ตอนนี้ผมเห็นชัดแล้วว่า มันไร้สาระ เสียเวลา และเป็นการไปสร้างกรรม สร้างโมหะให้คนซะมากกว่า จึงคิดว่าตัดสินใจดีแล้วว่า ถ้าเป็นงานบันเทิงที่ไม่เกี่ยวกับธรรมะ คงตัดใจเด็ดขาดครับ คือทุกวันนี้ผมเป็นที่รู้จักในวงกว้างนะ แต่ก็ยังมีคนหาว่าผมทำเพราะอยากดัง หรือดังแล้วลืมตัว โดยที่ไม่รู้หรอกว่าผมก็เป็นคนเดิมไม่เคยเปลี่ยนแปลง ไม่ว่าใครจะสรรเสริญหรือรู้จักมากขึ้นแค่ไหน เพราะผมสละชีวิตมาด้วยความที่ตัวเองทุกข์มากแล้วหาทางดับทุกข์ให้ตนเองได้ ไม่ต้องการอะไรทางโลกแล้วก็อยากใช้เวลาของชีวิตที่เหลือเพื่อบอกต่อคนอื่นว่าทางพ้นทุกข์มีจริงและไม่ได้ยากอย่างที่คิด ถ้าอยากดังผมไปเป็นดาราดีกว่า ไม่ต้องมาลำบากทำงานไม่มีวันหยุด ไม่มีวันลาแบบนี้คนเดียวมาเกือบสิบปีหรอกครับ ใครมาได้เห็นเบื้องหลังหรือมาทำกับผมจะรู้เลยว่ามันไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาย และต้องใช้กำลังกายกำลังใจมากแค่ไหน กว่าจะฝ่าอุปสรรครอบตัว ต้องทำงานยากกว่าคนอื่นแค่ไหน กว่าจะมีวันนี้ มีผลงานให้เห็นขนาดนี้ได้
.
กราบขอบพระคุณทุกความเมตตานะครับ
ผมอาจจะดูแปลกๆ แต่ก็เป็นคนกันเอง เป็นเพื่อนได้กับทุกคน แต่สำนวนการคุยผมอาจไม่เหมือนชาวบ้าน ดูแรงๆ โผงผาง ฟุ้งๆ พูดมาก ฯลฯ ก็สารพัด แต่ถ้าได้สัมผัสจริงๆ แล้วอาจไม่เป็นอย่างที่คุณคิดก็ได้ อย่าถือสาอะไรกับผมมากมายเลยนะ .. เพราะปัจจุบันคนเข้าใจผมผิดเยอะมาก ด้วยภาษาที่เป็นเอกลักษณ์ส่วนตัวของผมนี่หละ 555 คิดจะคุยกับผมทำใจหน่อยนะ ..ติสมากมายหละคนๆนี้อะ
.
( ผลงานของโจโฉทั้งหมด เผยแพร่ต่อได้ ไม่ต้องขออนุญาต )
แต่ต้องเพื่อธรรมทานแจกฟรีเท่านั้นนะครับ
หมายเหตุ : ติดต่อฝากเรื่องผ่านเบอร์&ไลน์ ที่ให้ไว้ได้นะครับ
ช่วงนี้ปลีกวิเวก งดการสนทนา ยกเว้นอัพเดทกิจกรรมในเฟซบุ๊คครับ
* ติดต่อด่วน ฝากเรื่องกับผู้จัดการส่วนตัว : คุณไก่
T: 086-400-9749 Line : jzserum
(9.00-20.00 น.)
-------------------------
"ขอบพระคุณทุกกำลังใจ และการแนะนำ"
อ่านทุกข้อความเป็นประจำนะครับ
.
เจ้าของเว็บไซต์ แก้ไขเมื่อ 12/12/2016 - 00:43