เลี้ยงลูกให้ถูกทาง ด้วยพลังจากจิต โดย โจโฉ
"กตัญญูรู้คุณ" คุณธรรมพื้นฐานที่ควรสอนประจำ แต่มีปีละครั้งแค่วันพ่อแม่ น้อยคนจะโชคดีได้เทวดามาเข้าท้อง ชนิดไม่สอนก็ประเสริฐแต่กำเนิด กฎธรรมชาติคือสิ่งเหมือนกันจะดูดเข้าหากัน ย้อนดูว่าเคยทำความทุกข์ให้พ่อแม่และคนอื่นแค่ไหน ถึงได้ดึงดูดแฟนเลวกับวิญญาณร้ายมาเกิดเป็นลูก จนทุกข์ใจได้ขนาดนี้ กฎแห่งกรรมมักเล่นงานคืน ผ่านคนที่เรารักมากที่สุด เช่น.."ลูกกับแฟน" มีผลให้รู้สึกเจ็บหนัก(กว่าคนอื่นทำ)และเหมือนตัดใจไม่ได้ซะที กรรมเก่ามีผลกับชีวิตส่วนหนึ่งเท่านั้น ชีวิตเราเปลี่ยนได้ด้วยกรรมปัจจุบัน แม้กรรมแรงในอดีต ก็บรรเทาได้ด้วยการทำดีอย่างมหาศาล เช่น องคุลีมาลฆ่าคนเกือบพันแต่แก้ตัวด้วยปฏิบัติดีจนสำเร็จอรหันต์ไม่ต้องตกนรก!! ผีร้ายมาเกิดถ้าเลี้ยงถูกวิธีก็มีสิทธิ์เปลี่ยนเป็นดีได้ ตรงข้ามหากเป็นเทวดามาเกิด แต่เลี้ยงผิดก็มีสิทธิ์กลายเป็นสัตว์นรกได้เหมือนกัน
ปัญหาวัยรุ่นส่วนหนึ่งมาจาก.."พ่อ แม่ ครู" โทษเด็กเลวสอนไม่ได้ แต่ไม่มองว่าการเลี้ยงการสอนถูกต้องเหมาะสมหรือไม่ จากการแก้ปัญหาให้หลายครอบครัว พบว่าสิ่งสำคัญคือเปลี่ยนพฤติกรรมพ่อแม่ก่อนทั้งนั้น เด็กยุคนี้ทำโทษเหมือนก่อนไม่ได้ แม้เคยได้ผลก็ตาม เด็กโตเร็ว รับสื่อเยอะ ต้องอธิบายให้เข้าใจได้จริง ไม่ใช่แค่.."อาบน้ำร้อนมาก่อน หรือ เชื่อฉันแล้วจะได้ดี" พระพุทธเจ้าสอนใคร ยังรอให้พร้อมก่อน หายเหนื่อยกินอิ่มก่อนถึงสอน เด็กที่กำลังเครียด โกรธ ร้องไห้ คลื่นสมองไม่สงบ สอนหรือลงโทษไปก็เท่านั้น งานวิจัยระบุการกอดบอกรัก พูดจาดีๆ มีผลกว่าด่าด้วยความโกรธ ลงโทษรุนแรงหรือทำให้อาย
ความรู้สึกในจิตเป็นคลื่นพลังส่งถึงกันได้ พิสูจน์ง่ายๆ เช่น อยู่ใกล้คนเครียดจัด เราจะไม่สบายใจไปด้วย "กฎของพลังจิตคือ คิดถึงใครแบบไหน จะมีผลให้เขาคิดถึงเราแบบนั้น" พ่อแม่ลูก กระแสจิตจูนกันง่าย(คลื่นความถี่เดียวกัน)จึงส่งพลังได้ชัดเจนกว่าคนอื่น คำว่า.."คิดถึงแบบไหน" ต้องแยกเป็นพลังบวกหรือลบ (กุศลจิต-อกุศลจิต) ผู้ปฎิบัติธรรมขั้นสูงจะมีรักบริสุทธิที่ถือเป็นพลังบวก ความรักทั่วไปจะเจือโทสะเสมอดังคำว่า.. ยิ่งรักมากยิ่งทุกข์มาก ความรักลูกหรือแฟน จะแฝงด้วยห่วงกังวลและคาดหวังให้ได้อย่างใจ สิ่งที่คิดในใจมีผลทำร้ายลูกได้จริง โบราณจึงว่าพ่อแม่ศักดิ์สิทธิ์ แช่งลูกมักเห็นผลเร็ว การจ้องจับผิดกลัวทำสิ่งไม่ดี กลับบ้านช้าก็ห่วงจะเป็นอะไร จะได้แฟนได้เพื่อนดีไหม จะเรียนจบทำงานเลี้ยงตัวได้หรือเปล่า? ความคิดคือคลื่นความถี่ที่ส่งหากันได้เหมือนคลื่นวิทยุ สารพัดความกังวลที่คิดถึงลูกเมื่อไรก็ส่งพลังลบหาลูกทันที
คิดถึงแบบไหนจะทำให้อีกฝ่ายคิดถึงตอบแบบนั้น จึงไม่แปลกที่ลูกจะคิดถึงพ่อแม่แง่ลบเช่นกัน อยู่ดีๆ จะรู้สึกเบื่อรำคาญพ่อแม่แบบหาสาเหตุไม่ได้ นึกถึงความจู้จี้ แม้เรื่องเล็กน้อยก็ผุดมาให้รู้สึกอยากต่อต้านพ่อแม่ ทำให้ไม่อยากกลับบ้าน ไม่อยากเชื่อฟัง พลังจิตพ่อแม่ที่มีต่อลูกจะแรงมาก(เพราะรักมาก) เมื่อส่งพลังแง่ลบ(ความกังวล)ที่เข้มข้นไปให้บ่อย อาจมีผลให้คลื่นสมองไม่สงบ กระตุ้นสมองส่วนที่คล้ายสัตว์ทำงาน จึงคิดได้ไม่ต่างจากสัตว์ ความกตัญญูรู้คุณจะเริ่มหายจากใจ แถมยังมีผลต่อเซลล์ในร่างกายให้เสื่อมลงด้วย พลังจิตสำคัญมากต่อการเลี้ยงลูกและการใช้ชีวิต ใครจะรู้สึกดีกับเราก็เพราะเรามีพลังงานดีแผ่ออกไปก่อน การแผ่เมตตาคือการฝึกสร้างและส่งพลังบวกออกไป อานิสงส์มากดังพระไตรปิฎกบอกไว้ แต่ส่วนมากส่งพลังไม่ได้จริง ทำได้แค่ท่องเป็นนกแก้ว.."สัพเพฯ สัตว์ทั้งหลายจงเป็นสุข" (สนใจฝึกแบบง่ายจากซีดีสมาธิดอกไม้ จาก DVD รวมเสียงโจโฉ ที่ทำแจกฟรีนะครับ)
ลูกศิษย์หลวงพ่อจรัญนั่งสมาธิแผ่บุญให้ลูกเกเร อยู่ดีๆ ลูกเกิดรักและสำนึกบุญคุณแม่ขึ้นมาอย่างหาสาเหตุไม่ได้ บางคนนั่งรถไปกราบขมาถึงวัดก็มี นี่คือตัวอย่างการส่งรักบริสุทธิ์ให้ลูกได้ถูกต้องและเข้มข้นจริง ก็ได้รักบริสุทธิ์คืนจากลูกกลับมาเช่นกัน เมื่อทำความดีออร่า(พลังงาน)จะขยายและมีสีสว่าง ทำความชั่วออร่าจะหดทึบสีหม่นหมอง พลังงานต่างกันจะเข้ากันไม่ได้ ดังนั้นควรพาคนรัก/ลูก ไปทำความดีด้วยกันเป็นประจำ(แบบที่เขารู้สึกเต็มใจด้วย) จะทำให้มีพลังงานคล้ายกัน จึงเข้ากันได้ดี เป็นสุขเมื่อใกล้และพูดจาเข้าใจง่ายขึ้น ถ้าเห็นลูกคบคนไม่ดี อย่าดุด่าบังคับห้ามคบ แต่ให้พาเพื่อนและแฟนลูกมาเที่ยวบ้าน พากันไปทำบุญ ทำกิจกรรมกุศลพร้อมกับพ่อแม่บ่อยๆ จะช่วยแก้ปัญหาได้ดีกว่า พลังบุญมีอำนาจเหนือทุกสิ่ง ถ้าเพื่อนชั่วไม่เปลี่ยนเป็นคนดี เขาก็จะต้องจากไปตามทางของเขา แถมเรายังมัดใจลูกได้จริงจากพลังรักด้วยบุญ
.
การสวดมนต์ ดนตรีที่อ่อนโยน รดน้ำต้นไม้ ถือเป็นสมาธิอย่างง่าย ช่วยให้คลื่นสมองสงบ จิตสำนึกทำงานดีขึ้น สอนให้รู้จักบุญคุณแม่ค้า บริกร คนขับรถ ฯลฯ เรื่องเล็กน้อยที่ส่งให้สำนึกบุญคุณใหญ่ของพ่อแม่ได้ง่าย "เลี้ยงลูกให้คิดว่าเลี้ยงหมา" เราไม่เคยทุกข์ใจว่าหมาจะเรียนจบหรือไม่ ไม่หวังให้หมาเลี้ยงเราตอนแก่ เราจึงเลี้ยงเขาด้วยใจที่เป็นสุข(มาก) ดีใจทุกครั้งที่ได้เห็นได้กอดได้อยู่ใกล้ เป็นรักที่มีแต่ให้ไม่เคยคาดหวังใดๆ เลี้ยงลูกแต่คิดแบบเลี้ยงหมาจะได้ไม่ทุกข์และเป็นพลังบวกส่งให้เขาทุกวัน
.
สำรวจตัวเองว่าดีพอให้ลูกทำตามหรือยัง อยากให้ลูกเคารพแต่ด่าปู่ย่าให้ฟัง อยากให้ลูกมีศีลแต่ตัวพ่อแม่ไม่มีสักข้อ เป็นพญามารแต่อยากได้ลูกเป็นเทวดาก็ฝันไปเถอะ ถ้าคิดว่าดีพอและเลี้ยงลูกได้ถูกหลักแล้ว แต่ลูกยังชั่วชิงแชมป์ ก็คงต้องจบที่คำตอบสุดท้ายคือ "อุเบกขา"(ทำใจวางเฉย) ทุกคนมีกรรมของตน เราก็แค่พ่อแม่ชั่วคราวของเขาเฉพาะชาตินี้เท่านั้น อย่าแบกทุกข์แทนคนอื่นเลยครับ!!
โจโฉ www.jozho.net