http://www.jozho.net
   
ค้นหา  ประเภทการค้นหา   
สถิติ
เปิดเว็บไซต์ 19/11/2007
ปรับปรุง 05/10/2024
สถิติผู้เข้าชม14,726,086
Page Views22,839,748
Menu
หน้าแรก
งานบรรยายโดยโจโฉ
เกี่ยวกับ&ที่มา..โจโฉ
ตัวอย่างภาพกิจกรรม
รวมเสียงโจโฉ
สนับสนุนโจโฉ
บทความโดยโจโฉ
ติดต่อโจโฉ
เลือกดาวน์โหลด
แนะนำ
มาใหม่ล่าสุด
บอกเล่าเก้าสิบ
สวดมนต์ สมาธิ
Video ธรรม
ข่าวร้อน
.
 

ย้อนวัยอ่อนเยาว์ ด้วยพลังจิตใต้สำนึก!!

ย้อนวัยอ่อนเยาว์ ด้วยพลังจิตใต้สำนึก!!  โดย โจโฉ 

 

              "จิตใต้สำนึก" เป็นหัวหน้าใหญ่ในการควบคุมร่างกายทั้งหมด เช่น การสร้างฮอร์โมน การซ่อมแซมตัวเอง การเผาผลาญ   ร่างกายมนุษย์สร้างสารสำคัญได้หลายอย่างที่มีผลต่อการควบคุมน้ำหนัก  ความแข็งแรงและอ่อนเยาว์      ที่เด่นสุดคือ..       "โกรทฮอร์โมน"  แต่เมื่ออายุมากจะผลิตน้อยลงเรื่อยๆ ทำให้เกิดริ้วรอย เหี่ยวย่น ผมหงอก ประสิทธิภาพการซ่อมตัวเองลดลง   ธรรมชาติออกแบบให้มนุษย์มีอายุขัยระดับหนึ่ง ถึงเวลาต้องแก่และตาย โดยมีข้อมูลผ่าน DNA รุ่นสู่รุ่น       เป็นข้อมูลพื้นฐานให้จิตใต้สำนึกได้ใช้ควบคุมการผลิตโกรทฮอร์โมนให้เหมาะสมในแต่ละช่วงอายุ  ความคิดความเชื่อฝังใจ อารมณ์และการกระทำที่สะสมจากชาติก่อนและชาตินี้ ยังเป็นปัจจัยเร่งหรือยืดเวลาการลดระดับหลั่งโกรทฮอร์โมนได้อีกด้วย

 

              ตัวอย่างเช่น.. เมื่อนึกถึงคนอายุใกล้ 30 ขึ้นไป เราแทบทุกคนจะมีข้อมูลปรากฎลึกในใจโดยอัตโนมัติว่า.. "แก่แล้ว โตแล้ว ผู้ใหญ่แล้ว"  อาจมีตามมาอีกลึกๆในใจ เช่น แก่แล้วต้องเหี่ยว ไม่แข็งแรง ฯลฯ  เป็นข้อมูลฝังในจิตสะสมมาช้านานอย่างเหนียวแน่น ทุกครั้งที่รู้สึกใหม่จะเท่ากับส่งไปย้ำให้จิตใต้สำนึกโดยไม่รู้ตัว  คนที่ชอบตอกย้ำในใจว่า "ฉันโตแล้ว แก่แล้ว" (ซึ่งอาจทำโดยไม่รู้ตัว)  จิตใต้สำนึกจะทำงานตามข้อมูลที่สะสมไว้ เช่น เมื่อรู้สึกแก่แล้วก็ไม่จำเป็นต้องผลิตฮอร์โมน ไม่ต้องเสริมสร้างอะไรใหม่  เป็นผลให้ร่างกายแก่ก่อนเวลาจริง  และเมื่อย้ำคิดแต่ว่า.."ฉันแก่แล้ว"  จิตจะเริ่มไม่รับอะไรใหม่  หมดความพยายาม สมองจะฝ่อไปเรื่อยๆ  ดังนั้นเวลาเข้าสัมนาอบรม เขาถีงกระตุ้นให้เชื่อและคิดว่าเรายังเป็นเด็กวัยรุ่น เพราะจิตและสมองจะตื่นตัว ยอมรับและเรียนรู้สิ่งใหม่ได้ดีขึ้น  มีความกระตือรือร้น มีความพยายามสูงขึ้น ไม่ยอมแพ้ง่ายๆ



              หลักของพลังจิตคือ "คิดอย่างไร.. ก็ได้หรือเป็นอย่างนั้น" แต้ต้องคิดและเชื่ออย่างสุดหัวใจ จนข้อมูลฝังแน่นระดับลึกในจิตใต้สำนึกด้วย  ขณะคลื่นสมองสงบ หรือจิตเป็นสมาธิดิ่งในเรื่องเดียว(ไม่เว้นแม้ตอนทุกข์ใจ) เป็นช่วงที่เราสามารถป้อนข้อมูลให้จิตใต้สำนึกอย่างได้ผล   "กุศลจิต" คือภาวะคลื่นสมองสงบ เกิดได้จากคนที่มีปกติ คิดดี พูดดี ทำดี  การทำสมาธิ สวดมนต์ การฟังธรรม (ทำให้ความฟุ้งซ่านน้อย กระแสจิตมีพลังเข้มข้น)  และการทำอะไร(ทั้งดีและชั่ว)ด้วยใจรักและเพลิดเพลิน  ก็อยู่ในภาวะที่เอื้อต่อการส่งข้อมูลถึงจิตใต้สำนึกได้แนบแน่นเช่นกัน  ก่อนและหลังหลับเป็นช่วงเวลาทองที่โปรแกรมจิตได้  บางคนฟังธรรมะหรือจินตนาการสิ่งดีเพื่อให้กำลังใจตัวเอง  เวลาก่อนหรือหลังหลับ ก็ส่งผลต่อแนวคิดการใช้ชีวิตในอนาคตให้ดีขึ้นอย่างมาก 

.

              วิธีนี้ยังนำมาใช้โปรแกรมจิตลูกได้เช่นกัน โดยเฉพาะเด็กเล็กจะยิ่งได้ผลมาก  เช่น ขณะลูกหลับ เข้าไปนั่งหรือนอนใกล้ แล้วพูดเบาๆ ว่า.. " แม่รักหนูนะ หนูเป็นเด็กดี แข็งแรง ฉลาด ขยัน ทำอะไรก็ประสบความสำเร็จได้ง่าย เป็นที่รักของทุกคน ไม่โกรธง่าย  เราจะมีความสุขด้วยรักและให้อภัยกับทุกคนที่ทำไม่ดีกับเรา" อย่าคิดว่าเด็กไม่รู้เรื่อง เพราะจิตใต้สำนึกจะรับรู้และบันทึกข้อมูลไว้ทั้งหมด ซึ่งจะมีผลต่อแนวคิดและนิสัยของลูกเราในวันข้างหน้า และอย่าลืมว่า.. การบอกรักย้ำๆ การกอด เป็นยาวิเศษในครอบครัวที่ได้ผลดีที่สุดกว่าการด่าด้วยความโกรธ หรือการลงโทษด้วยความรุนแรง

.

              ให้สังเกตว่าการสวดมนต์ก่อนนอนและทั้งวัน ที่ผู้สวดแปลความหมายได้ ก็คือการโปรแกรมจิตนั่นเอง ด้วยการท่องเนื้อหาส่งเสริมความรักและให้อภัย การระลึกคุณศาสดาหรือพระเจ้า เป็นการหล่อเลี้ยงจิตด้วยความคิดที่เป็นกุศล  ถือเป็นสมาธิอย่างหนึ่ง  เมื่อคลื่นสมองสงบ การโปรแกรมจิตทำได้ง่าย เป็นเหตุให้คนไม่ดีในคราบนักบวช ใช้หาผลประโยชน์ได้ เช่น.. จูงจิตให้เชื่อว่าการฆ่าคนอื่นเป็นสิ่งที่ถูกต้อง จะได้ขึ้นสวรรค์ จูงจิตให้ขายบ้านทำบุญให้หมดตัว   จูงจิตให้หลง งมงายไปกับสิ่งที่เขาเล่าให้ฟัง  ฯลฯ 



              เรื่องจิตคิดอย่างไรเป็นอย่างนั้น ยกตัวอย่างคนเป็นมะเร็ง หากไม่ไปหาหมอก็ร่าเริงปกติ แต่พอหมอบอกว่า.."คุณเป็นมะเร็งต้องตายภายใน 1 เดือน"  จากคนแข็งแรงดีอาจทรุดลงอย่างเร็วในรุ่งขึ้น (บางคนหมอวินิจฉัยผิด ทั้งที่ไม่ได้เป็นอะไร ก็ทรุดลงได้เหมือนกัน)  ความตกใจสุดขีดกับข่าวโรคร้าย  เครียดจัดด้วยกลัวตาย ความห่วงอาลัยทรัพย์สินและคนรัก ข้อมูลฝังจิตว่าเป็นมะเร็งแล้วโอกาสหายยาก ผสมความเชื่อมั่นในแพทย์  จิตเฝ้าครุ่นคิดอยู่เรื่องเดียวว่า.."เราตายแน่ ไม่มีทางรอดแน่" ข้อมูลที่สะเทือนใจหนักส่งหาจิตใต้สำนึกให้เข้าใจว่า.. ร่างกายนี้ต้องตายแน่ๆ จึงมีคำสั่งจากจิตใต้สำนึกไปสู่ระบบในร่างกายว่าไม่จำเป็นต้องซ่อมแซมหรือผลิตสารสำคัญอะไรให้อีกแล้ว ร่างกายจึงอ่อนแอและส่วนใหญ่ตายไวกว่าที่หมอบอกไว้ซะอีก มีการทดลองเอาน้ำเปล่าฉีดให้นักโทษ หลอกว่าเป็นสารเคมีรุนแรง ปรากฎนักโทษบางคนเจ็บปวดและตาย!!

  .

              หากเข้าใจเรื่องการโปรแกรมจิตด้วยการส่งข้อมูลที่ดีให้จิตใต้สำนึก เราจะนำมาใช้ประโยชน์ได้หลายด้าน เช่น หลวงพ่อพุธ ฐานิโย ท่านก็มีบันทึกไว้เรื่องการสะกดจิตใต้สำนึกเพื่อรักษาตัวเอง  และที่ผมนำมาใช้จนเห็นผลก็คือ "การสะกดจิตย้อนวัย"  หลักคร่าวๆ คือป้อนข้อมูลให้จิตใต้สำนึกว่า.. เธอคือเด็กวัยรุ่นอายุ 16 ที่กำลังเจริญเติบโต การส่งข้อมูลจนจิตใต้สำนึกเชื่อว่าเรายังเป็นเด็กจริง ส่งให้การซ่อมแซม การหลั่งโกรทฮอร์โมนเพิ่มมากขึ้น ทำให้เราย้อนวัยได้ ซึ่งคงไม่กลับไปเท่าอายุ 16  แต่ถ้าเทียบรุ่นเดียวกันแล้ว จะเห็นได้ชัดว่าแตกต่างกันมาก (ให้จิตเชื่อจริงว่ายังเป็นเด็กแค่ร่างกาย ไม่ใช่ดัดจริตให้แบ๊วจนแลดูปัญญาอ่อนเกินหนังหน้านะครับ)  การย้อนวัยจะได้ผลดียิ่งขึ้นหากรู้จักทำบุญและดูแลด้านอื่นประกอบกัน  หลายท่านอาจไม่ทราบว่าผมบรรยายเรื่องความงามและสุขภาพแนวธรรมชาติและจิตบำบัดด้วย  สูตรครีมบำรุงกับน้ำผักผิวสวยขาวในไม่กี่เดือน เคล็ดลดน้ำหนักและการดูแลภายในภายนอกแบบประหยัดได้ผลจริง  ซึ่งใช้เวลาเขียนเป็นพ๊อกเก็ตบุ๊คถึง 7 ปีแล้ว  ( ก็ยังไม่เสร็จซะที ^.^ ) 


โจโฉ www.jozho.net




Tags :

 
 หน้าแรก  รวมเสียงโจโฉ  บทความ  ภาพกิจกรรม  สนับสนุนโจโฉ  ติดต่อ
view