ชีวิตหลังฆ่าตัวตาย.. !! โดย โจโฉ
สงสัยไหมครับ ทำไมทั่วโลกมักเล่าตรงกันว่า.. "คนฆ่าตัวตายจะกลายเป็นผีที่พยายามฆ่าตัวตายซ้ำๆ อยู่ในสถานที่เดิม" คนผูกคอตายก็ขึ้นไปผูกแล้วผูกอีก คนกระโดดตึกก็ขึ้นไปกระโดดลงมาใหม่ หรือกลายเป็นผีทรมานอยู่ตรงนั้นไปไหนไม่ได้ เรื่องเล่าจากคนละซีกโลกตั้งแต่โบราณ สมัยยังไม่มีดาวเทียมส่งข้อมูลถึงกันไวอย่างตอนนี้ ดังนั้นการเลียนแบบหรือได้อิทธิพลจากกันจึงเป็นไปได้ยาก "น้ำตาลอยู่ตรงส่วนไหนของโลกก็หวานทั้งนั้น ความจริงของธรรมชาติจะเกิดที่ไหนก็ปรากฎรูปแบบตรงกันเสมอ จึงไม่แปลกที่คนทุกชาติจะเจอปรากฎการ์ณเห็นผีที่คล้ายกัน"
มีการศึกษาเรื่องต่างมิติในยุโรป-อเมริกาอย่างจริงจัง แต่เผยแพร่ในสื่อเฉพาะกลุ่มเท่านั้น น่าแปลกที่คนไม่เชื่อมักพูดแค่ว่า.. "มันพิสูจน์ไม่ได้" แต่กลับไม่เคยศึกษาจริงจัง ไม่เคยพิสูจน์ให้ถูกวิธี หลายคนอ้างตัวเองเป็นนักวิทยาศาสตร์ แต่ช่างน่าสลดใจเหลือเกิน ที่ไม่รู้ว่า นักวิทย์ที่ดี เขาจะบอกว่าอะไรไม่มีจริง เขาต้องพิสูจน์ ศึกษา ค้นคว้าอย่างหนัก จนแน่ใจเท่านั้น เต็มที่ก็จะบอกว่า ยังพิสูจน์ไม่ได้ แต่จะไม่ยอมบอกหรอกว่า .... "ไม่มี"
ตัวอย่างโลกหลังตายที่ทุกคนสัมผัสได้คือ.. "ความฝัน" ซึ่งสภาพใกล้เคียงกันเพราะทุกอย่างเกิดจากจิตล้วนๆ ให้นึกถึงตอนฝันร้าย โดนใครไล่ฆ่า หรือจะด่าจะทำร้ายใคร เราจะทุกข์ใจ เจ็บใจมาก ด่ายังไงก็ไม่หายแค้น ฆ่ามันก็ไม่ตาย วิ่งหนีเท่าไหร่ไม่พ้นซะที ในโลกความฝันเราจะรู้สึกสมจริงมาก ทั้งได้กลิ่น หิว เจ็บปวด ร้อน หนาว ขณะอยู่ในฝันก็จะลืมไปเลยว่า.. มีอีกร่างของเรานอนหลับอยู่บนเตียงในโลกมนุษย์ เราจะรู้สึกว่าร่างกายในโลกความฝัน เป็นคนละคนกับที่นอนบนเตียงโดยสิ้นเชิง เมื่อถูกร่างกายกระตุ้นให้ตื่น ตัวตนในฝันก็หายวับไป กลับมารู้สึกตัวในร่างหยาบบนเตียงอีกครั้ง ครั้นตื่นจากฝันร้ายก็จะดีใจว่า.."โชคดีที่แค่ฝันไป" ลองคิดดูว่าถ้าขณะฝันร้ายแล้วเกิดตายไป หรือตื่นขึ้นมาไม่ได้ ต้องจมอยู่ในฝันร้ายนั้นไปแสนนาน จะทุกข์ทรมานแค่ไหน??
นี่คือเรื่องใกล้เคียงกับสิ่งที่จะเกิดกับคนที่ต้องตายในขณะที่ใจเป็นทุกข์ เช่น คนฆ่าตัวตาย หรือตายด้วยจิตอาฆาตแค้น เขาก็ไม่ต่างกับคนฝันร้ายต่อเนื่องแล้วตื่นไม่ได้ อาจนานหลายร้อยปี ไม่มีใครกำหนดว่าจะหมดกรรมเมื่อไหร่ ทุกอย่างขึ้นกับตัวเอง จะเลิกหลงผิด จะยกโทษให้ใคร เราต้องคิดได้เอง ถ้าตอนมีชีวิตให้อภัยง่าย โกรธยาก ทุกข์ใจแป๊บเดียวหาย หากเผลอตายด้วยใจเป็นทุกข์ จะปล่อยวางและคิดได้ จนพ้นสภาพหมดกรรมได้ไวกว่าผีที่ปล่อยวางไม่เป็น
"กฎธรรมชาติคือ.. คนที่เพียรสร้างความดี จิตใจดี จะฝันดีได้ง่าย คนชั่วปล่อยวางไม่เป็น หรือสะสมความเครียด-ความกดดันไว้มาก จะฝันร้ายได้ง่าย และคนที่ไม่ฝันคือพระอรหันต์เท่านั้น" ปกติสมองจะคิดได้วันละเป็นหมื่นเรื่อง(แม้ขณะหลับ) คนที่คิดว่าไม่ฝันคือพวกฝันมากจนจำไม่ได้ซะมากกว่า ศาสนาพุทธถือว่า.. จิตสุดท้ายก่อนตายสำคัญที่สุด มีผลต่อชีวิตโลกหน้าว่าจะไปดีหรือร้าย จึงย้ำให้ทำจิตผ่องใสก่อนตายให้ได้ ซึ่งทำได้ง่ายกับคนที่สะสมความดีมาเยอะ ส่วนคนทำชั่วประจำ จะมาลักไก่ทำจิตผ่องใสก่อนตาย แทบเป็นไปไม่ได้ ยกตัวอย่างเช่น.. คนขี้โมโหจะบังคับจิตก่อนตายให้หายโกรธทันทีได้รึเปล่า คนเห็นแก่ตัวจะมีใจเสียสละเพียงชั่วข้ามคืนได้หรือไม่?? ความฝันและจิตก่อนตายจะแสดงภาพตามสันดานจริง หลอกกันไม่ได้ บางคนกดข่มจิตไว้สนิท คิดว่าตัวเป็นคนดี แต่ตอนฝันจะเห็นชัดว่า ยังอยากด่า อยากทำร้าย อยากขโมยได้เช่นกัน ความฝันใช้ตัดสินคร่าวๆ ได้ว่า... สันดานจริงเป็นแบบไหน หลังตายจะสุขหรือทุกข์ ขึ้นสวรรค์หรือลงนรกกันแน่ !!
คนนอนหลับแล้วฝัน จิตจะตัดขาดกับโลกความเป็นจริงจนลืมและมองไม่เห็นว่ามีอีกร่างอยู่บนเตียง คนฆ่าตัวตายก็เช่นกัน จิตจะแยกจากกายมาอีกมิติหนึ่ง จะลืมและมองไม่เห็นอีกร่างคือศพของตัวเองเช่นกัน (เพราะจิตจดจ่อเรื่องอยากตาย อยากหมดทุกข์จนไม่สนใจสิ่งอื่นด้วย) ผีที่ฆ่าตัวตายมักไม่รู้ว่าตนตายแล้ว และต่างมีความเชื่ออย่างเหนียวแน่นว่า ตายแล้วต้องสูญสลายไป แต่หลังฆ่าตัวตายกลับรู้สึกว่ายังมีตัวตนเป็นคนเดิม มีความทุกข์เหมือนเดิม ต่างสงสัยว่าทำไมไม่หายวับไป อยากตายก็เหมือนไม่ตายซะที ทรมานทุกข์ใจหนักกว่าเดิม จึงต้องขึ้นไปผูกคอหรือกระโดดลงมาอีกครั้ง ทำซ้ำเรื่อยไปจนกว่าจะสิ้นสงสัยหรือคิดได้ เราเรียกพวกนี้ว่า.."ผีหลงตาย"
ความทุกข์ที่กดดันให้ฆ่าตัวตายเป็นเรื่องเล็กมาก หากเทียบกับการต้องทุกข์ใจทุกวินาทีไปอีกหลายร้อยปี แบบผีหลงตาย ครั้นพ้นสภาพผีที่น่าสมเพช ได้โอกาสเกิดเป็นมนุษย์อีกครั้ง จะมีความอดทนต่ำ คิดฆ่าตัวตายได้ง่ายกว่าคนอื่น ต้องวนกลับมาทุกข์ซ้ำซากไม่จบสิ้น ที่บอกต้องฆ่าตัวตายอีก 500 ชาตินั้น เป็นสำนวนแขกหมายถึงยาวนานประมาณไม่ได้ ไม่ใช่มีคนกำหนดการรับโทษให้ห้าร้อยครั้ง การฆ่าตัวตายเป็นบาปมากในทุกศาสนา ส่งผลเสียต่อเนื่องหลายชาติ ไม่มีความเศร้าใดเท่าลูกตาย ฆ่าตัวตายเท่ากับฆ่าพ่อแม่ทั้งเป็น
ความทุกข์ใจเป็นสิ่งที่ทนได้ยาก แต่จะดีกว่ามากหากรับรู้ไว้บ้างว่า หลังฆ่าตัวตายคุณจะทุกข์กว่าที่เป็นอยู่นี้อีกพันล้านเท่า ถ้าอยากตายจริง ลองตัดใจไปถือศีล-ทำบุญติดต่อกันสัก 7 วัน รับรองว่า.. จะเจอทางออกที่ดีกว่านี้แน่ครับ !!
โจโฉ www.jozho.net