http://www.jozho.net
   
ค้นหา  ประเภทการค้นหา   
สถิติ
เปิดเว็บไซต์ 19/11/2007
ปรับปรุง 05/10/2024
สถิติผู้เข้าชม14,714,334
Page Views22,826,429
Menu
หน้าแรก
งานบรรยายโดยโจโฉ
เกี่ยวกับ&ที่มา..โจโฉ
ตัวอย่างภาพกิจกรรม
รวมเสียงโจโฉ
สนับสนุนโจโฉ
บทความโดยโจโฉ
ติดต่อโจโฉ
เลือกดาวน์โหลด
แนะนำ
มาใหม่ล่าสุด
บอกเล่าเก้าสิบ
สวดมนต์ สมาธิ
Video ธรรม
ข่าวร้อน
.
 

โปรแกรมจิตเพื่อการเลิกบุหรี่

-----------

หนังสือทั้งเล่ม กดอ่าน /คลิ๊กขวาบันทึก-โหลดเก็บ

(ไฟล์รูปแบบเอกสาร PDF อ่านง่าย นำไปพิมพ์ต่อง่าย)

... วิธีทำบุญแก้กรรม (คลิ๊ก)

... หลักการสวดมนต์ บทสวดบรรเทากรรม (คลิ๊ก)

... คำอริยะถึงในหลวง (คลิ๊ก) 

... ประสบการณ์ทางจิต (คลิ๊ก)

------------

.

 โจโฉ www.jozho.net

(ต่อจากฉบับที่แล้ว) 

โปรแกรมจิตเพื่อเลิกบุหรี่ และการเลี้ยงลูก

 

          จากที่ผู้เขียนเองเคยติดบุหรี่อย่างหนักจึงเข้าใจได้ดีว่าการเลิกไม่ใช่ง่าย   มีบทความวิธีเลิกบุหรี่มากมาย แต่ส่วนใหญ่เหมือนเป็นแนวคิดเพ้อฝันจากคนไม่เคยติดบุหรี่ หรือวิธีการที่เหมาะกับคนบางกลุ่มเท่านั้น  ทำให้คนจำนวนมากแม้อยากเลิกก็เลิกไม่ได้  ศาสตร์แห่งจิตใต้สำนึกและวิบากกรรม จะแก้ปัญหาได้ดีกว่าศาสตร์แห่งการคาดเดาและเอาตัวเองเป็นศูนย์กลางจักรวาล  หลายคนไม่มีวิบากเก่าจึงหักดิบได้ง่าย  เที่ยวดูถูกคนที่เลิกไม่ได้ว่าใจไม่ถึง  ฉันเลิกได้ง่าย  ทำไมแกเลิกไม่ได้ ?   หรือ... แค่อดทนก็พอ ฯลฯ   สารพัดแนวคิดจากการไม่เข้าใจจริงที่ส่งผลเสียมากกว่าเกิดประโยชน์ บางคนเขาติดกันมานานไปเลิกแบบหักดิบอาจทำให้ตาย หรือป่วยหนักได้ เพราะว่าร่างกายเคยชินกับการได้รับสาร ดั้งนั้นบางคนต้องค่อย ๆ ลดปริมาณ ค่อย ๆ เลิก และมีวิธีแตกต่างกันไปด้วย

 .

          ผู้เขียนหัดสูบบุหรี่ตั้งแต่ ป.6 สูบเรื่อยมาจนเป็นนักดนตรีกลางคืน       มีสถิติสูงสุดก่อนแขวนไฟแช๊ค คือวันละ 3 ซอง กินเหล้าวันละกลม สูบกัญชา ติดการพนันหลายชนิด อิ่มหนำสำราญกับความชั่วจนเต็มที่ ก่อนเลิกทุกอย่างและได้มีโอกาสศึกษาศาสนาพุทธแบบจริงจัง ก่อนตัดใจทิ้งวงการบันเทิงมาเผยแพร่ทำสื่อคุณธรรมแจกฟรีจนถึงปัจจุบัน   ใครบ้างที่ไม่รู้ว่าบุหรี่ เหล้า ยาเสพติด การพนันไม่ดี  มันรู้ทุกคนครับ!!  แต่เพราะปัจจัยหลายอย่างทำให้ตัดใจไม่ได้ ทั้งการเข้าข้างตัวเอง วิธีเลิกไม่เหมาะกับตัวเอง ไม่มีแรงกระตุ้นมากพอ มีวิบากเก่าจากชาติก่อนทำให้เลิกยากกว่าคนทั่วไป ฯลฯ

.

ผมเจอถามเป็นประจำว่าจมปลักขนาดนั้น โงหัวขึ้นมาได้อย่างไร??  คำตอบจากประสบการณ์ตรง และงานวิจัยหลายแห่งอธิบายไว้ว่า..  การนำลูกไปทำงานด้วยแต่เล็ก จะทำให้เด็กซึมซับและสงสารเห็นใจพ่อแม่ รู้คุณค่าของเงิน  การพาเด็กไปทำบุญอย่างสม่ำเสมอ พาฟังธรรม-สวดมนต์ ให้ทำงานบ้าน เน้นเรื่องมารยาท ฯลฯ จะส่งเสริมให้เด็กมีฐานบุญ สร้างคลื่นสมองที่ดี ไปพัฒนาสมองส่วนจิตสำนึกให้ทำงานดีขึ้น มีผลทำให้รู้ผิดชอบชั่วดี รู้จักกตัญญู มองโลกแง่บวก คิดอะไรได้ลึกซึ้งขึ้น  

 

         จิตใต้สำนึกของมนุษย์ทุกคนทำงานเองอัตโนมัติ ไม่สามารถบังคับได้   แต่ค่อย ๆ ป้อนข้อมูลให้เขาได้ จิตที่มีการสะสมเรื่องคุณธรรม-การทำงานแต่เล็ก ข้อมูลไม่หายไปไหน ถึงเวลาจะส่งออกมาเป็นแนวคิดการใช้ชีวิตต่าง ๆ    แม้เมื่อเกิดหลงผิดติดยาเสเพล ซึ่งบางทีไม่ใช่เพราะเด็กชั่ว แต่เพราะฮอร์โมนในช่วงวัยรุ่นกระตุ้นสมองส่วนที่คล้ายของสัตว์เดรัจฉานให้ทำงานดีขึ้น จึงมีพฤติกรรมและแนวคิดตกต่ำลง อยากรู้ อยากลอง ฯลฯ  

 

         ที่สำคัญอย่างมงคลสูตรข้อแรกที่บอกไว้ คือ.. การไม่คบคนพาล การมีเพื่อนชั่ว มีสิ่งแวดล้อมชั่ว ๆ เป็นเหตุจูงใจให้เด็กดีกลายเป็นเด็กเลวได้ สังเกตว่าถ้าเรานอนไม่หลับกลางคืนอยากจะออกไปเที่ยวหรือไปพักผ่อนหย่อนใจบ้าง   ในเมืองไทยจะเต็มไปด้วยร้านเหล้า ไม่มีที่อื่นให้ไปจริง ๆ นอกจากร้านเหล้า   ในอดีตที่ผู้เขียนติดเหล้าเพราะเหตุนี้ เริ่มตั้งแต่ยังเรียนอยู่ พอจะไปเที่ยวกับเพื่อน  ไม่ว่ากี่ที่มันมีแต่ร้านเหล้า ส่วนค่าเครื่องดื่ม น้ำอัดลมหนึ่งแก้วราคาเท่ากับเหล้าหนึ่งแก้ว แล้วใครมันจะโง่ดื่มน้ำอัดลม สุดท้ายติดเหล้างอมแงม เพราะไม่มีตัวเลือก  อยากให้รัฐบาลเห็นปัญหาตรงนี้ หาสถานที่ให้วัยรุ่นไปร่วมกันทำกิจกรรมกลางคืน ที่ปราศจากแอลกอฮอล์ มีสถานที่แสดงความสามารถ เช่น.. ร้องเพลง เต้น ฯลฯ เพราะเด็กยุคหลังมันนอนกันดึก มีเวลาว่างเยอะ มีพลังงานล้นเหลือที่อยากจะแสดงออก แต่เวทีไม่มี มีสถานที่เที่ยวกี่ที่ ก็มีแต่ร้านให้ไปนั่งเมากัน จนตอนนี้สถิติวัยรุ่นไทยติดเหล้าอันดับต้น ๆ ของโลกแล้ว     


หากแต่เล็กเคยสะสมข้อมูลด้านดีไว้พอสมควร ต่อให้หลงทางไปเลวสุดขั้วในตอนวัยรุ่น จะกลับตัวได้ไม่ยาก คล้ายคนมีภูมิคุ้มกันไว้ระดับหนึ่ง  จิตมีตัวเปรียบเทียบทั้งสองด้านจนเห็นชัดว่าอะไรทำแล้วเป็นสุข อะไรเป็นทุกข์  จิตใต้สำนึกจะกระตุ้นให้คิดอยากออกห่างจากสิ่งไม่ดีได้เอง  แต่อาจต้องมีปัจจัยเสริมมาสมทบด้วย เช่น.. สิ่งแวดล้อม ผู้คนรอบข้าง ใจที่มุ่งมั่น  แนวคิดว่าไม่สายที่จะเริ่มชีวิตใหม่  แนวทางหรือคำแนะนำจากบุคคลผู้มีประสบการณ์หรือให้แง่คิดได้ถูกกับวาระจิตของเขา  ฯลฯ   ซึ่งหลายสิ่งถ้าทำได้ถูกเวลา เหมาะสมสอดคล้องพอดีกับแต่ละบุคคล จะพลิกชีวิตหรือเปลี่ยนให้ดีกว่าเดิมได้ง่ายขึ้น   เด็กจะไม่ชอบคนบังคับ ต้องเอาจิตวิทยามาใช้กัน อย่างเช่น.. รณรงค์ว่าถ้าสูบบุหรี่แล้วแฟนจะไม่ชอบ จะหาแฟนยาก หรือจะเป็นที่น่ารังเกียจของวัยรุ่นหน้าตาดี เช่น.. เอาดารานักแสดงดัง มาโปรโมทออกสื่อบ่อย ๆ  ให้เขาดูตั้งแต่เด็กให้ซึมซับว่า ดาราที่ตนชื่นชอบ เขาไม่ชอบคนสูบบุหรี่ กินเหล้า อันนี้แค่แนะนำแนวทางเพิ่มเติม

 

เราแก้ปัญหาวัยรุ่นไม่ค่อยได้ เพราะใช้แนวทางเดียว แก้ปัญหาของเด็กทั้งประเทศ  เห็นเด็กทำผิดก็ด่ารุนแรง พยายามออกกฎให้เข้มงวดที่สุด คิดแต่จะลงโทษให้หนักจนมักเกินวัยของเด็ก   แทบไม่มีใครกลับมาคิดว่า ความผิดส่วนหนึ่งเกิดจากพ่อแม่และครูไม่เคยอบรมให้ดีพอ หรือไม่สามารถหาวิธีที่เหมาะสมกับเด็กคนนั้น ๆ หรือเปล่า??  สมองส่วนจิตสำนึกไม่เคยถูกพัฒนาในเวลาที่เหมาะสม จากพ่อแม่และครูที่ไร้คุณภาพ หรือไม่มีทักษะมากพอจะเท่าทันโลกที่มันเปลี่ยนแปลงเร็วขึ้น   ส่วนนี้เราไม่โทษครู เชื่อว่าครูในประเทศไทยส่วนใหญ่เป็นครูที่ดีและตั้งใจสอน แต่หลังจากที่ได้รับการเชิญไปบรรยายทั่วประเทศกลับพบว่าระบบการศึกษาของบ้านเราต่างหาก การบริหารหน่วยงานที่มันห่วยแตก ต่อให้มีครูดีล้นโรงเรียนอย่างไรก็พัฒนาเด็กไม่ได้ เพราะระบบที่แย่มาก คิดว่าในอนาคตประเทศไทยคงมีการพัฒนาขึ้นต่อไป แต่ปัญหาหลายส่วนก็ยังมาจากพ่อแม่และครูที่ไร้คุณภาพ(ส่วนหนึ่ง) แต่มักมองข้ามไม่เห็นความผิด ความบกพร่องของตัวเอง จะมาแก้ที่ปลายเหตุ แก้เมื่อสายไป หรือเข้าไปยุ่งในเวลาที่ไม่เหมาะสม 

 

เด็กก่อนมีฮอร์โมนเพศ จะต้องการความใกล้ชิดเอาใจใส่จาก.. “พ่อแม่เท่านั้น”  ต้องการให้หอม กอด พาเที่ยว นั่งคุย แนะนำสั่งสอนสิ่งดี ๆ ฟังเพลงดีๆ รับสื่อดีๆ  การสวดมนต์ทำสมาธิ ฯลฯ สิ่งเหล่านี้ล้วนมีผลต่อสมองส่วนจิตสำนึก  ซึ่งวัยเด็กซึมซับข้อมูลได้ดีที่สุด แต่ส่วนใหญ่มักอ้างไม่มีเวลา คิดแค่ว่ายังเด็กไม่ต้องสนใจอะไรมาก แถมปล่อยฟังเพลงเนื้อหาอุบาทว์ ดูละครน้ำเน่า เล่นเกมรุนแรง และให้แรงงานไร้คุณภาพเลี้ยงลูกแทน    แต่พอเด็กมีฮอร์โมนเพศ ซึ่งมันจะไปกระตุ้นสมองส่วน(คล้าย)สัตว์เดรัจฉานให้ทำงานดีขึ้น ความคิดจะเปลี่ยนและควบคุมอารมณ์ได้ยาก อยากอยู่เหนือผู้อื่น ไม่ชอบคำสั่ง อยากเป็นอิสระ อยากขยายพันธุ์ อยากโดดเด่น  มีโลกส่วนตัวสูง  ไม่อยากให้ใครมายุ่ง มาสั่ง บังคับ ฯลฯ


         ช่วงฮอร์โมนพุ่ง ตีให้ตายสอนให้ปากแฉะ มันก็ฟังแล้วคิดตามไม่ได้ ต้องพาทำกิจกรรมหรือมีกุศโลบายอื่น ๆ  แต่ดันเป็นเวลาที่พ่อแม่และครู มักให้ความสำคัญและเข้มงวดจนเกินพอดีกับเด็กในช่วงนี้ เลยเป็นแรงกดดันให้ปัญหาบานปลาย ยิ่งทำให้เด็กเสียคนมากขึ้น จากประสบการณ์ตรงที่เคยแก้ปัญหาให้กับพ่อแม่ที่มีลูกเกเร จากที่เคยดุด่า แค่ปรับพฤติกรรม ปรับพลังจิตของพ่อแม่ที่ส่งไปหาลูก และเปลี่ยนคำพูดจากคำรุนแรง เป็นคำหวาน ๆ      พบว่า..         เด็กยอมรับคำสั่งสอนมากขึ้น ดื้อน้อยลงการดุด่า การลงโทษหรือกฎข้อบังคับที่เกินวัยของเด็ก การเข้มงวดและยุ่งกับโลกส่วนตัวเกินไปในช่วงนี้ ส่งให้เด็กเกิดแรงกดดันสะสมภายในได้ง่าย    ส่งให้มีปัญหาทางจิตที่ส่งต่อถึงการกระทำในอนาคต และส่งผลเสียต่อมาถึงตอนโตเป็นผู้ใหญ่ได้อย่างพิสดารหลายรูปแบบ  การเข้าใจภาวะทางอารมณ์ที่มีผลมาจากสมอง ฮอร์โมน และสิ่งเร้าต่าง ๆ จะทำให้แก้ปัญหาให้เด็กแต่ละวัยได้ถูกทางและง่ายขึ้น แต่น้อยคนจะใส่ใจและมองเห็น

 

เรื่องคลื่นสมองกับฮอร์โมนสำคัญมาก ถ้ารู้จักว่าวิธีไหน การกระทำใด ปรับจูนคลื่นสมองและฮอร์โมนให้ลงมาพอดี จะมีผลต่อพัฒนาการของเด็กมาก เช่น.. เด็กผู้ชาย ฮอร์โมนเพศชายออกมามาก จะกระตุ้นให้ก้าวร้าว ถ้าเราเอาเข้าฟิตเนสเล่นกล้าม ฮอร์โมนพวกนี้จะถูกนำไปสร้างกล้ามเนื้อ และสมองส่วนจิตสำนึกจะทำงานดีขึ้น จะกลายเป็นคนที่มองโลกในแง่ดีขึ้น การเข้าฟิตเนสในวัยที่ฮอร์โมนกำลังพุ่งพล่าน เป็นสิ่งที่ดีเพราะอย่างน้อย ก็ไม่ค่อยเห็นเด็กหุ่นดี กล้ามสวยคนไหนไปวิ่งไล่ตีใคร ส่วนมากพอเวลากล้ามสวยหุ่นดีแล้ว จะเป็นที่ชื่นชมของทุกคน ( โดยเฉพาะสาว ๆ ) จะลดความก้าวร้าวและการแสดงออกผิดๆ  โดยไม่รู้จะเกเรไปทำไม ในเมืองตัวเองมีจุดเด่นอยู่แล้ว


         ผู้เขียนเองต้องตื่นตีสี่ไปขายของกับแม่ตั้งแต่อยู่อนุบาลจนจบประถม กลับมาต้องกวาดหน้าบ้าน รดน้ำต้นไม้ทั่วบ้านในขณะที่ตัวกับกระป๋องแทบจะสูงเท่ากัน  สิ่งที่เคยบ่นและรำคาญ โตมาถึงรู้ว่าสิ่งเหล่านี้ทำให้เป็นคนสู้งาน  และสำนึกบุญคุณพ่อแม่ได้ง่าย  การได้เห็นความเหน็ดเหนื่อยของพ่อแม่ ทำให้พยายามหาเงินเองตั้งแต่ประถม เปิดร้านขายน้ำแข็งใส ขายมะม่วงดอง ทำด้วยตัวคนเดียวทั้งหมด    เก็บเศษตะปูมาชั่งกิโลขาย และทำอีกสารพัดตอนปิดเทอม  ความจริงผมไม่ต้องทำอะไรก็มีเงินใช้สบายเพราะเป็นลูกคนเล็กที่แม่ตามใจมาก แต่การเห็นพ่อแม่ทำงานเหนื่อยแค่ไหนมาตั้งแต่เกิด กว่าจะขายของได้กำไรแต่ละบาท ทำให้ไม่อยากรบกวน และขวนขวายอยากหาเงินเอง โดยไม่ต้องมีใครสั่งให้ทำ

 

ผมโดนบังคับให้ไปโบสถ์ทุกวันอาทิตย์ ต้องเรียนคำสอนหลังเลิกเรียน ต้องสวดมนต์ทุกวัน แม่พาเข้าวัด จับหยอดเงินทำบุญประจำ  ฯลฯ แถมพ่อยังเน้นเรื่องมารยาทอย่างเข้มงวด เดินเสียงดัง ปิดประตูเสียงดัง เจอผู้ใหญ่ไม่ไหว้ ไม่นอบน้อม รับรองโดนตีตาย ในขณะที่พ่อแม่สมัยนี้เห็นเป็นเรื่องเล็กน้อย และไม่ค่อยสอนกันเลย เด็กเลยโตมาเป็นคนเนรคุณ จำไว้ว่าลูกจะโตมาเป็นคนกตัญญูได้ต้องสอนไว้ตั้งแต่เล็ก ถ้าคุณสอนให้เขาเหยียดยามดูถูกคนที่เขารับเงินจากคุณในการซื้อของ มันจะซึมซับการเป็นผู้สั่ง การไม่เห็นในบุญคุณของคน เรื่องพวกนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อน  

 

ทั้งหมดที่พ่อแม่ผมปลูกฝังไว้  คงทำให้มีข้อมูลด้านดีในจิตใต้สำนึกพอควร ที่แม้จะเสเพลติดเหล้ายาอย่างหนักในตอนวัยรุ่นด้วยสิ่งแวดล้อมพาไป  สุดท้าย “จิตใต้สำนึก” ก็ปรากฏเป็นความคิดเตือนตัวเอง และลากออกมาจากสิ่งเหล่านั้นได้ในที่สุด  ซึ่งตรงตามทฤษฎีเรื่องของจิตที่กล่าวมาข้างต้น   คือเอาไปเปรียบเทียบกัน ในชีวิตวัยเด็กเราเคยมีความสุข เคยสวดมนต์ เข้าโบสถ์ทำความดีและมีความสุขอย่างไร พอมาเสพยา ติดเหล้า ติดการพนัน  มีความทุกข์อย่างไร จิตใต้สำนึกมันชั่งน้ำหนักกันได้และเห็นว่า ควรจะเลิกเหล้า เลิกบุหรี่ และภาพความรักของแม่ที่ปรากฏขึ้นมาว่า.. ไม่อยากทำให้แม่เสียใจไปมากกว่านี้ นั่นเป็นอีกจุดที่ผมเริ่มต้นอยากทำดีเพื่อแม่ โดยการเลิกบุหรี่ก่อน

 

จากประสบการณ์ตรงจึงเชื่อมั่นว่าการสอนเด็กที่ดี ควรเริ่มตั้งแต่เล็กและช่วงก่อนมีฮอร์โมนเพศ ไม่ใช่ตามแก้ปัญหาตอนเกือบสายไป เพราะถ้าไม่สะสมข้อมูลด้านดีให้ลูกแต่เล็ก  แล้วจะให้เป็นคนดีตอนโตหรือกลับตัวจากคนชั่ว    มันคงไม่ง่ายเหมือนสลับปลั๊กไฟ  ถึงจะยากแต่ไม่มีคำว่าสายไป เกิดเป็นคนได้ต้องมีบุญเก่าพอควร ขอแค่เข้าใจและใช้แนวทางแก้ไขให้เหมาะสมกับแต่ละบุคคล อย่างน้อยลูกหรือลูกศิษย์ชั่วของคุณ มันต้องลดความเลวลงได้อีกระดับแน่นอน สำคัญคือคุณมีจิตเมตตาและความพยายามมากแค่ไหน !! 

 

สมัยก่อนช่วงที่ยังจมกับอบายมุข ผมไม่เคยหยุดสวดมนต์ ในขณะที่คนอื่นหาว่าดัดจริต เลวขนาดนี้จะมาสวดมนต์ทำไม ??  คงเป็นความเคยชินเพราะทำมาแต่เด็ก ผมทำควบคู่ไปจนวันหนึ่งจิตเริ่มบอกตัวเองว่าควรเลิกสิ่งเหล่านี้ซะ เพราะมีแต่นำทุกข์มาให้  แถมมีคำพูดจากสิ่งเหนือธรรมชาติที่เคยเจอตอนจะฆ่าตัวตาย เป็นแรงกระตุ้นเพิ่มอีกด้วย    จะบังเอิญหรือโชคดีไม่รู้ ช่วงนั้นมีรายการทีวีสั้น ๆ เกี่ยวกับการเลิกบุหรี่ฉายทุกสัปดาห์ คนเราถ้ามีใครพูดกรอกหูเรื่อย ๆ จิตคล้อยตามได้ง่ายนะ  นี่คือจุดเริ่มต้นที่ทำให้คิดว่า...  “เราต้องเลิกบุหรี่ให้ได้ก่อนดีกว่า”   พยายามทำตามคำแนะนำในทีวี ไปซื้อหนังสือที่วางขายมาอ่านหลายเล่ม สุดท้ายล้มเหลวหมด ทำไม่ได้สักอย่าง อยากถามคนเขียนหนังสือเหลือเกินว่า..  เคยติดยาหรือเปล่าฟร๊ะ ??  อ่านแล้วทำตามโคตรยาก !!    สุดท้ายผมคิดค้นวิธีเลิกบุหรี่ด้วยตัวเองจนได้ ขณะที่ยังกินเหล้าวันละกลมเหมือนเดิม ใครสูบบุหรี่จะรู้ว่า.. การเลิกบุหรี่แต่ยังกินเหล้า ไม่ง่ายเลยเพราะมันของคู่กัน แถมยังร้องเพลงกลางคืน ต้องเจอคนสูบบุหรี่ควันขโมงให้เห็นทุกวัน แต่เลิกได้หน้าตาเฉย  ช่วงแรกของการเลิกบุหรี่ จะเกิดผลสะท้อนมากมายโดยที่เราไม่รู้ตัว ทั้งอารมณ์หงุดหงิดหาสาเหตุไม่ได้ พาลทะเลาะไปทั่วจนโดนไล่ออกจากงาน !!

 

ถ้าใครจะเลิกบุหรี่แล้วไม่อยากมีปัญหาตามมา ควรลาพักร้อน งดรับแขก งดพบลูกค้าเด็ดขาด  หรือต้องบอกให้ทุกคนเข้าใจว่า ช่วงนี้จะเกิดปฏิกิริยาที่ทำให้เราหงุดหงิดและแสดงออกไม่ดี ควบคุมตัวเองไม่ได้ ขอให้ทุกคนให้อภัย  ศาสตร์แห่งจิตใต้สำนึกทำให้ผมรู้ภายหลังว่า ที่เราติดอะไรอยู่ก็ตาม ส่วนหนึ่งมันเกิดจากมีข้อมูลเป็นประจำส่งไปที่จิตใต้สำนึก เลยทำให้เกิดการเข้าใจผิด      เกิดการเสพติด คิดว่าขาดไปแล้วจะไม่มีความสุข  ถ้าต้องการเลิกเด็ดขาดชนิดไม่หวนกลับไปอีก เราต้องถอนข้อมูลขยะในจิตใต้สำนึกออกมา เราปลูกความเข้าใจผิดไว้ทีละน้อยจนมันเติบโตฝังลึกไว้  จึงต้องใช้เวลาให้ข้อมูลใหม่ที่ถูกต้องทีละน้อยจนจิตมีกำลังก่อน แล้วค่อยถอนรากออกให้หมดจดอีกที

 

แนะนำเพิ่มเติมสำหรับเลิกบุหรี่ใหม่ ๆ ลองแวะไปหาหมอทางด้านจิตเวช ขอยาเพื่อบรรเทาอาการหงุดหงิด จะได้ไม่มีปัญหากับคนรอบข้าง เพราะบางทีปัญหามันใหญ่กว่าที่คิด เกิดคุณจะต้องรับผิดชอบดูแลครอบครัว แล้วโดนไล่ออกจากงานเพราะว่าไปพาลหงุดหงิด พอเลิกบุหรี่แล้วมันมีผลต่อสมองจริง ๆ มันจะพาลแบบที่คุณไม่รู้ตัว  อันนี้รวมถึงยาเสพติดชนิดอื่นด้วยนะครับ

.

วิธีโปรแกรมจิตเพื่อเลิกบุหรี่


         วิธีการเลิกบุหรี่ของผมอันดับแรกคือ.. “การโปรแกรมจิตใหม่ทั้งหมด” โดยยืดเวลาสิ่งที่เคยชินออกไปเรื่อย ๆ คนติดบุหรี่มักเกิดจากสูบทันทีหลังอาหาร หรือเข้าห้องน้ำ มันเป็นสองเวลาสำคัญที่ภาวะจิตกับสมองจะเสพติดอะไรได้ง่าย หลายคนที่สูบแล้วไม่ติด นอกจากเพราะไม่มีวิบากเก่าจากชาติก่อนให้ติดง่าย    ก็เกิดจากไม่เคยสูบหลังอาหารและไม่สูบตอนเข้าห้องน้ำ แต่ถ้ามาสูบสองเวลานี้ประจำเมื่อไหร่ ติดแหงกทุกราย (แต่มักปากแข็งบอกว่าไม่ติด) การหักดิบเลิกกะทันหันอาจส่งผลเสียหลายด้าน ถึงเลิกได้อาจมีปัญหาสุขภาพตามมาทีหลัง

 .

วิธีค่อยเป็นค่อยไปจะช่วยให้ได้ผลดีกว่าในระยะยาว  เริ่มต้นด้วย.. “ยืดเวลาสูบบุหรี่หลังอาหารทุกมื้อ”  กำหนดให้ตายตัวว่าจะเอาวันละเท่าไหร่  เช่นวันแรก หลังอาหาร 3 นาทีแล้วค่อยสูบบุหรี่ วันที่สอง 5 นาทีแล้วค่อยสูบ วันที่สาม 10 นาทีแล้วค่อยสูบ  ยืดไปเรื่อยทุกวันจนเป็นเว้นชั่วโมงสองชั่วโมงหลังอาหาร  และอย่าสูบบุหรี่หมดมวนเด็ดขาด ให้สูบหรือดูดสักครึ่งมวนแล้วพอ แล้วเก็บไว้สูบครั้งต่อไป    การเก็บไว้สูบต่อ กับเว้นเวลาหลังอาหาร จะทำให้บุหรี่ไม่อร่อย สูบแล้วไม่ชื่นใจ  ทำแบบนี้ไปเรื่อย จนถึงขั้นสูบวันเว้นวัน จนถึงไม่สูบเลยเป็นสัปดาห์  จะทำให้หลายคนเลิกบุหรี่ได้ง่ายขึ้น     


เป็นการป้อนข้อมูลด้านลบให้จิตใต้สำนึกเรื่อย ๆ  เมื่อสูบทุกครั้งมันไม่ชื่นใจ ไม่อร่อย  วันหนึ่งมันจะรู้สึกเองว่า “แล้วกูจะสูบไปทำไม” ที่มันติดอยู่ทุกวันนี่ เพราะกินข้าวปุ๊บสูบปั๊บ มันอร่อยไง!!  มันเลยโหยหา คิดว่าสิ่งนี้เป็นความสุข ความจริงเมื่ออยากบุหรี่ ลองหายใจลึก ๆ แล้วจินตนาการพ่นลมเห็นกลุ่มควันลอยออกไป จะรู้สึกสบายใจ ทดแทนการสูบบุหรี่ได้ระดับหนึ่ง   วิธีเลิกบุหรี่แนวนี้ไม่ได้มีอะไรยุ่งยากและน่าจะเหมาะกับทุกคน ร่างกายเคยรับนิโคตินทุกวัน อยู่ดีไปหักดิบ มันประท้วงเจ็บป่วยเอาได้นะครับ  ดังนั้นการทยอยเลิกทีละน้อย ยืดเวลาสูบหลังอาหารไปเรื่อยจนเลิกสูบได้ จะเป็นวิธีที่น่าจะโอเคที่สุด ซึ่งได้ผลอย่างมั่นคงกับผู้เขียนมาแล้ว   

 

         อีกปัญหาของคนเลิกบุหรี่ไม่ได้ คือ.. จิตใต้สำนึกไม่ยอมรับ ชอบหลอกตัวเองว่าไม่ติด หรือติดแล้วไม่เสียหายอะไร มันจะมีข้ออ้างเสมอเพราะเสพติดมานาน ไม่อยากพรากสุขที่เคยได้เสพเป็นประจำ จึงไม่มีกำลังใจพอที่จะเลิกหรือทำตามขั้นตอนการเว้นหลังอาหารได้อย่างจริงจัง  ดังนั้นเราต้องแก้ด้วยการโปรแกรมจิตเสริมเข้าไป โดยหาเวลาทำสมาธิ สวดมนต์ หรือนั่งฟังเพลงบรรเลงเบา ๆ  พอจิตสงบ ลองหลับตาจินตนาการย้อนคิดถึงตอนเราเป็นเด็กเล็ก  เรามีความสุขแค่ไหน ถามใจตัวเองว่าเมื่อก่อนไม่มีบุหรี่ เรามีความสุขกว่าตอนนี้ไหม? 

 

         การทำอะไรก็ตาม ถ้าให้ใจสงบสักเล็กน้อยแล้วถามตัวเองบ่อย ๆ มันจะมีคำตอบให้ตัวเองได้วันหนึ่งครับ  จิตจะเห็นชัดว่าทำตัวแบบไหนมีสุขมากกว่า  และทุกครั้งที่คุณจะเสพอะไร บุหรี่ เกมหรือละคร   อย่าไปบังคับจิตว่าต้องเลิก แต่ให้ถามตัวเองบ่อย ๆ ทั้งก่อนทำ ขณะทำ หลังทำ ว่าทำแล้วได้อะไร เป็นสุขจริงไหม ดีจริงแล้วหรือ ?   หรือหาโทษของมันมาคิดถึง มาพิจารณาเรื่อย ๆ   สักวันคำตอบมันจะผุดขึ้นมาเอง แล้วเราจะเลิกหลงใหลกับสุขจอมปลอมเหล่านี้ได้ง่าย แถมเกิดภูมิคุ้มกันไม่กลับไปมัวเมาอีกครั้งได้มั่นคงขึ้น

  

คนเลิกบุหรี่ได้ จะพบว่าการเลิกเหล้า-การพนัน การห้ามใจเรื่องอื่นจะเลิกง่ายขึ้นตามลำดับ การติดบุหรี่คือ.. “กิเลส”   การเลิกบุหรี่ได้ คือการปฏิบัติธรรมอย่างหนึ่งที่พิสูจน์ได้ว่า เราชนะกิเลสแบบหยาบได้แล้ว   การเลิกบุหรี่เป็นผลดีต่อสุขภาพกายและใจทันที สารพัดสารพิษจำนวนมาก ที่ทำร้ายให้ร่างกายเจ็บป่วย ทำให้แก่เร็ว ก่อโรคหลายชนิด อย่ามัวแต่กล่าวธรรมะพรั่งพรูแต่ยังดูดบุหรี่ควันฉุย  คนสูบบุหรี่เป็นสิ่งน่ารังเกียจในสังคม    แถมยังส่งผลทำลายสุขภาพคนรอบข้าง คุณเดินสูบไปเนี่ย เชื่อไหมว่าคนเขาด่าคุณไปตลอดทาง   คนที่เขาไม่สูบเขาเหม็น เขาก็บ่น  อดสาปแช่งคุณไม่ได้    และคิดดูว่าคุณสูบทุกวัน คนสาปแช่งทุกวัน   วันหนึ่งกี่คนนับไป ปีหนึ่งกี่ร้อยคน แรงสาปแช่งนี่มีผลนะ เป็นกระแสจิตที่ส่งมา        

 

จะพิจารณาด้านไหน “บุหรี่” ก็มีแต่ข้อเสียมหาศาล แต่ก็แปลกสินค้าทำลายชีวิตคนขนาดนี้ กลับถูกกฎหมาย และมีวางขายหาซื้อง่ายมาก  ต่อให้ขึ้นราคาแค่ไหน ก็ยังมีคนซื้อเพราะมันยังเลิกไม่ได้ แถมมีการแบ่งเป็นมวนขายครับ  น่าแปลกที่บุหรี่หาประโยชน์ไม่ได้เลย หาคำตอบไม่ได้เหมือนกันว่า รัฐบาลเอาเงินมารณรงค์ให้คนเลิกบุหรี่ เอาไปปิดโรงงานผลิตบุหรี่จะง่ายกว่าไหม ?? จะอ้างอะไรก็อ้างไปของมันไม่ดี ทำลายสุขภาพ บวก ลบ คุณ หารแล้ว     ทำกฎหมายไปเลยว่าลงทะเบียนคนสูบบุหรี่ วันนี้ ปีนี้ มีคนสูบบุหรี่เท่าไหร่    แล้วต่อไปนี้... เด็กรุ่นใหม่ห้ามสูบ ใครสูบผิดกฎหมายเท่ากับเสพยาอี/ไอซ์    แค่นี้รับรอง..คนสูบบุหรี่จะหายไปจากประเทศไทยทั้งหมด เหลือแต่คนสูบเก่า ๆ ก็ผลิตให้แต่คนพวกนี้สูบ หรือจับบำบัดจนกว่าเขาจะเลิกได้แค่นั้นเอง ดูแล้วไม่ได้ยากอะไร แต่ไม่ทำกันเอง สิ่งชั่ว ๆ ทำร้ายสุขภาพ ทำร้ายสังคมหละ ถูกกฏหมายได้หน้าตาเฉย !!    เจริญหละโลกมนุษย์

.

.

.


Tags :

 
 หน้าแรก  รวมเสียงโจโฉ  บทความ  ภาพกิจกรรม  สนับสนุนโจโฉ  ติดต่อ
view